ปธน.สี จิ้นผิง ให้การต้อนรับ นายกฯอิ๊งค์ สานสัมพันธ์ 50 ปีไทย-จีน


7 ก.พ. 2568, 06:35

ปธน.สี จิ้นผิง ให้การต้อนรับ นายกฯอิ๊งค์ สานสัมพันธ์ 50 ปีไทย-จีน




วันที่ 7 ก.พ.2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง  ที่มหาศาลาประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมคารวะนายสี จิ้นผิง (H.E. Xi Jinping) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางเยือนสาธารณประชาชนจีนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 5-8กุมภาพันธ์ 2568  โดยนายกรัฐมนตรีกล่าว “สวัสดีปีใหม่จีน”  และยินดีที่ได้มาเยือนจีนในปี 2568 ซึ่งเป็นปีที่พิเศษครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ไทย-จีน 
                  
โดยในปัจจุบัน จีนถือเป็นหุ้นส่วนสำคัญทางเศรษฐกิจของไทย และเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 12  อีกทั้งจีนยังเข้ามาเป็น นักลงทุนอันดับต้นๆของไทยต่อเนื่องหลายปี มูลค่ากว่าแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนให้เห็นว่าไทย-จีน  มีมิติทางความสัมพันธ์เป็นพิเศษ ทีั้งนี้ทั้งสองฝ่ายจะร่วมส่งต่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันต่อไปอีก 50 ปีข้างหน้า เพื่อสานต่อความร่วมมือไปยังคนรุ่นต่อไป  
                 
ในโอกาสนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 50 ปี ไทย-จีน มีหลักการและวิสัยทัศน์ความร่วมมือในการแบ่งปันความเจริญรุ่งเรือง (shared prosperity)   ซึ่งจีนยังสนับสนุนบทบาทไทยในทุกกรอบความร่วมมือทั้งระดับทวิภาคี  พหุภาคีและภูมิภาค   ซึ่งยังเห็นควรขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนารถไฟความเร็วสูง เศรษฐกิจดิจิทัล เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC  และการใช้ประโยชน์ความร่วมมือเศรษฐกิจ ไทย ลาว จีน   อีกทั้งจีนยังส่งเสริม ภาคเอกชนไทยในทุกมิติ   ทั้งนี้ประเทศจีนจะมีการจัดงาน“ China International Import Expo ”ซึ่งถือเป็นงานสำคัญของการค้าขายระหว่างกัน    ซึ่งจีนยังสนับสนุนสินค้าและบริการที่ดีของไทย มาที่ประเทศจีนส่วนความร่วมมือในด้านยุทโธปกรณ์ทางทหารนั้น  ไทย จีนมีจุดเริ่มต้นจากโครงการเรือดำน้ำอีกด้วย
                  
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความคืบหน้าในความร่วมมือ ด้านความเชื่อมโยงระหว่างไทย-จีน โดยรัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรี (4 ก.พ.  2568) ที่ผ่านมาอนุมัติดำเนินการโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย   รวมทั้งจะให้การรถไฟแห่งประเทศ ยกระดับความร่วมมือด้านการรถไฟ ระหว่างไทยและจีน ให้เพิ่มเติมมากกว่าระบบรางอีกด้วย  นอกจากนี้ไทยยังมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ โครงการ Entertainment complex และ Land bridge ซึ่งจะเป็นโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ พร้อมเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดทำมาตรฐานร่วมกันในการจัดการ ณ ด่านศุลากร เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ใช้เหลือผู้ประกอบการทั้งไทย-จีน รวมทั้งเพื่อประโยชน์ ของผู้บริโภคจีนด้วย 
           
“ด้านความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทย เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุด ซึ่งไทยพร้อมเดินหน้าความร่วมมือกับจีนในการสะกัดกั้นกระบวนการอาชญากรรมที่เดินทางผ่านประเทศไทยและจะเตือนภัย ผ่านกลไกความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ  ทั้งนี้เป็นที่น่ายินดีที่ทั้งสองฝ่าย รวมถึงประเทศที่เกี่ยวข้องในภูมิภาค ได้มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ call center อย่างจริงจังแล้วในปัจจุบัน”นายกรัฐมนตรี กล่าว
                
ขณะที่ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง กล่าวว่า  “จีนสนับสนุนอย่างเข็มแข็งในการปราบปราม ขบวนการหลอกหลวง( online scam )การลักพาตัว การค้ามนุษย์  ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนผลประโยชน์ของประชาชนจีน เป้าหมายหลักของทั้งสองประเทศ คือ การปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมาย  ที่ผ่านมาจีนได้ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและท้องถิ่นสามารถปราบปรามยาเสพติด จนประสบความสำเร็จ 
               
โดยอาชญากรรมข้ามชาติ ถือเป็นความท้าทาย มีความเสี่ยงสูง และชี่นชมรัฐบาลไทยที่พยายามอย่างเต็มที่และเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะการตัดน้ำ ไฟ อินเตอร์เน็ตและน้ำมัน  ที่จะสามารถตัดวงจรกิจกรรมที่เป็นอาชญากรรมต่างๆ  ได้ และเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม จะดูแลความปลอดภัยและผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยการยกระดับการบังคับใช้กฏหมายทั้งในระดับทวิภาคีและอนุภูมิภาค  
               
ส่วนการยกระดับความร่วมมือในระดับประชาชน อาทิ การจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 50 ปี  ไทย -จีน ในการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐานที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ร่วมทั้งการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนการแสดงวัตถุโบราณ การส่งมอบแพนด้ายักษ์ รวมไปถึงการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มคนรุ่นใหม่ และการให้ทุนการศึกษา และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและ soft power เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งในด้านวัฒนธรรมดั้งเดิมและสื่อวัฒนธรรมสมัยใหม่ ความร่วมมือด้านสื่อ วัฒนธรรม เพื่อส่งต่อความร่วมมือจากรุ่นสู่รุ่น เป็นสิ่งที่ทั้งสองประเทศจะได้ร่วมมือกัน ”ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าว 

         
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า“นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความยินดีที่ไทยและจีนเห็นถึงความสำคัญของความร่วมมือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะในสาขาแห่งอนาคต เนื่องจาก “คน” ถือเป็นอนาคตของประเทศและความสัมพันธ์ไทย - จีน นอกจากนี้ ไทยยังมุ่งส่งเสริมและแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา วัฒนธรรม soft power เพื่อสร้างรากฐานที่เข้มแข็งให้แก่ประชาคมไทย-จีนที่มีอนาคตร่วมกัน
          
ขณะที่ การประชุมหารือครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ยังเห็นพ้องกันที่จะสนับสนุนบทบาทของทั้งสองประเทศ ในเวทีระหว่างประเทศ  อาทิการส่งเสริมบทบาทขององค์การสหประชาชนชาติ UN ให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาความร่วมมือของโลก เพื่อความร่วมมีอทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม  การส่งเสริมการเป็นแกนกลางของอาเซียน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีจีนยังยินดีที่ไทยได้เข้าเป็นสมาชิกประเทศ หุ้นส่วนของ BRICS พร้อมมั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีจะประสบความสำเร็จในการเยือนนี้ และจะได้พบกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้งที่ เมืองฮาร์บิน ในวันพรุ่งนี้   ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้กล่าวอวยพรให้การแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวครั้งที่ 9 ประสบความสำเร็จ   ”นายจิรายุ กล่าว
 





คำที่เกี่ยวข้อง : #นายกฯ  









©2018 CK News. All rights reserved.