วันที่ 3 ก.พ.2568 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ได้ประสานขอความช่วยเหลือ ถึงพล.ต.ต.สุระพันธุ์ ไทยประเสริฐ ผบก.กองการต่างประเทศและทีมงานตำรวจสากลไทย ประสานตำรวจสากลระหว่างประเทศ นำกำลังตำรวจสากลร่วม 30นาย เข้าช่วยเหยื่อหญิงไทย3 คน ออกมาจากบ้านของจีนเทาในประเทศจอร์เจีย ที่ทำธุกิจค้ามนุษย์ขายใข่สืบพันธ์ ส่งไปยังประเทศที่ 3 เพื่อทำเป็นเด็กหลอดแก้วนำไปขาย โชคดีที่ตำรวจสามารถพาตัวเหยื่อออกมาได้ และนำส่งไปยังบ้านพักพิงชั่วคราวที่ประเทศจอร์เจีย จากนั้นมูลนิธิปวีณาฯ ได้ส่งตั๋วเครื่องบินพาเหยื่อเดินทางกลับประเทศไทยมาได้เมื่อวันที่ 30 ม.ค.68 โดยได้ประสาน พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม.และพ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุงผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เหยื่อหญิงไทยทั้ง3รายกล่าวว่า ด้วยความยากจนจึงหางานทำที่F/Bและถูกชักชวนให้ไปอุ้มบุญที่ประเทศจอร์เจีย อ้างว่า เป็นงานถูกกฏหมายจะมีรายได้4-6แสนบาทจึงตัดสินใจเดินทางไป เมื่อไปถึงบ้านพักถูกกักบริเวณ ยึดpassport มีหญิงไทยร่วมชะตากรรมในบ้านพักอีก4หลังๆ ละ 60 คน ที่จะต้องขายใข่สืบพันธุ์ให้กับคนจีนเทาที่ควบคุมอยู่ในบ้าน โดยทุกคนต้องถูกฉีดยาให้ร่างกายแข็งแรงบางคนไม่สามารถผลิตใข่ให้แข็งแรงได้ก็ต้องรออยู่เป็น7-8เดือนไปเรื่อยๆ หากหญิงใดแข็งแรง สามารถขายไข่สืบพันธุ์ได้ก็จะนำไปวางยาสลบใช้เครื่องมือสอดช่องคลอดเพื่อรีดไข่สืบพันธ์แล้วรวบรวมนำไปส่งยังประเทศที่ 3 เพื่อทำเป็นเด็กหลอดแก้วโดยไม่รู้ชะตากรรมของทารกเหล่านั้นที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์โหดเหี้ยมทารุณ
ปวีณาเตือนภัยคนไทยทุกคนอย่าหลงเชื่อ หากเป็นเหยื่อค้ามนุษย์แล้วคุณอาจจะไม่มีโอกาสกลับบ้านเพราะต้องทำงานหนักอ่อนเพลียผลสุดท้ายเขาก็เขี่ยเราเป็นขยะกลับบ้านก็ไม่ให้กลับเพราะกลัวจะมาแฉความลับ
วอนให้รัฐบาลเตือนภัยและอยากให้รัฐบาลจีนเข้ามาตรวจสอบเส้นทาง การค้ามนุษย์ส่งไข่สืบพันธุ์ไปประเทศที่ 3 เพื่อการขายเป็นการพาณิชย์
ขอขอบคุณ พล ต.ต.สุระพันธุ์ไทยประเสริฐ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศและทีมงานตำรวจสากลไทยที่ได้ทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่ง ทางมูลนิธิฯ จะติดตามการดำเนินงานเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดโดยจะเสนอเรื่องไปยังพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรจแห่งชาติ เพื่อขยายผลขบวนการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศให้หมดสิ้นไป
©2018 CK News. All rights reserved.