วันที่ 10 มกราคม 2568  เวลา 17.00 น. ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา นายสัญชัย วันพิรัตน์ หรือ  “อ.เบียร์ คนตื่นธรรม” เดินทางเข้ากราบสักการะพระเทพวัชรสารบัณฑิต หรือ “เจ้าคุณประสาร” รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 

พระเทพวัชรสารบัณฑิต กล่าวว่าโดยสรุปว่า  ยอมรับว่าติดตามข่าวของอาจารย์เบียร์อยู่บ้าง แต่ไม่ต่อเนื่อง เพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว ที่ผ่านมามีสื่อมวลชนหลายคนมาขอความคิดเห็นก็จะปฎิเสธไป เพราะมองแง่บวกคือ การที่มีฆราวาสมาสอนธรรมะแล้วดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาฟังธรรมหันมาสนใจพระพุทธศาสนาถือว่าเป็นเรื่องดี และปลายทางมีเป้าหมายเฉกเช่นกับกันคือ สอนให้คนพ้นจากทุกข์ และอีกประการหนึ่งหากพูดสื่อสารออกไป เดียวจะหาว่าไปเกาะกระแสคนตื่นธรรม จึงเงียบที่พูดหรือสัมภาษณ์

“มีวันหนึ่ง ช่วงค่ำมีคนส่งคลิปมาให้ดูและโทรมาเล่า ตอนที่อาจารย์เบียร์พูดถึงพระเกจิสังขารไม่เน่าเปื่อยโดยไปเปรียบเทียบกับสุนัข ในฐานะที่อาตมาเป็นศิษย์หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก ซึ่งศพท่านก็ไม่เน่าเก็บไว้ในโลงให้คนมากราบไว้เพื่อให้รำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน จึงจำเป็นต้องพูดเพื่อเตือนให้สติ ในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นระองค์สอนพุทธศาสนิกชนให้ยึดทางสายกลาง ไม่ให้พูดจาก้าวร้าว หรืออย่าเพ่งโทษคนอื่นจนเกินควร คณะสงฆ์เรามีพระธรรมวินัยคุ้มครอง มีกฎหมายบ้านเมืองและจารีต รวมทั้ง วัฒนธรรมประเพณี ที่ต้องปฎิบัติตาม ประการสำคัญคืออาจารย์เบียร์ต้องอย่าพูดก้าวร้าวและเพ่งโทษผู้อื่นจนเกินควร เด็กยุคใหม่จะมีศาสนาหรือไม่มีศาสนาก็ตามก็ต้องมีทุกข์  พระพุทธเจ้าสอนให้คนรู้จักทุกข์และหนทางดับทุกข์ ขออนุโมทนาชื่นชมที่อาจารย์เบียร์ทำให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจพระพุทธศาสนามากขึ้น และขอฝากปรับวิธีสื่อสาร วิธีสอน ให้สอดคล้องกับคำแนะนำของพระสงฆ์และผู้รู้ทั้งหลายเชื่อมั่นว่าอาจารย์เบียร์จะสมหวังดังเจตนารมณ์ที่มีหวังดีต่อพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ร่วมทั้งประเทศชาติ..”

ด้านอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ได้กล่าวว่า  วันนี้ตั้งใจมาขอพบ เพื่อ ขอแสดงเจตจำนง ว่าตนเองมีความหวังดีต่อพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ คำพูดบางคำพูดอาจดูก้าวร้าวและรุนแรงบ้าง ซึ่งตรงนี้หากมหาเถรสมาคม คณะสงฆ์ไม่สบายใจก็พร้อมที่จะเข้าขอขมาต่อมหาเถรสมาคม  ตนเองมีเจตจำดงหวังดีต่อพระพุทธศาสนามาก อยากพูดให้เด็กและคนรุ่นใหม่เข้าถึงศาสนา มิให้ติดอยู่ในพิธีกรรมจนมากเกินไป จึงพูดแรงเพื่อกระตุกจิตสำนึกสังคมให้ตื่นตัว

 “หากติดตามไลฟ์สดจะเห็นว่าตนเองพูดแบ่งออกเป็น 2 หมวด ๆ แรก ตอบคำถาม อาจพูดแรงและใช้วาจาแรง ส่วนหมวดสองจะเรียบร้อย เพราะสอนธรรมะ สอนการปฎิบัติธรรม ซึ่งตอนนี้จัดปฎิบัติธรรมมีคนมาร่วมหลายพันคน จึงขอปวารณาว่าหาก มจร มีพระอาจารย์สอนการนั่งสมาธิก็ยินดีมาก..”