วันนี้ 4 มกราคม พระเทพวัชรสารบัณฑิต หรือเจ้าคุณประสาร ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศสพ.จชต.) กล่าวถึงกรณีที่เพจ อ.เบียร์ (คนตื่นธรรม) ตอบคำถามกรณีพระเกจิอาจารย์ที่มรณภาพไปแล้วร่างกายไม่เน่าเปื่อย ทำนองว่าไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร แม้แต่หมาก็ไม่เน่าเปื่อยนั้นขณะนี้ปรากฎเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ในเรื่องดังกล่าวนี้
อาตมาได้มีการพูดคุยกันกับหลวงพี่น้ำฝน ลูกศิษย์หลวงพ่อพูลและพระอาจารย์อีกหลายรูปที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และอาตมาในฐานะลูกศิษย์หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก ที่ร่างกายไม่เน่าเปื่อยนั้น รู้สึกตรงกันว่าคนสอนธรรมะ คนปฎิบัติธรรมอย่าง อ.เบียร์ยังขาดคารวตา(ความเคารพ)เป็นอย่างยิ่ง เพราะคารวตาหมายถึง ความเคารพ การถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะพึงใส่ใจและปฎิบัติด้วยความเอื้อเฟื้อหรือโดยความหนักแน่นจริงจัง การมองเห็นคุณค่าและความสำคัญและปฎิบัติต่อบุคคลนั้นหรือสิ่งนั้นอย่างถูกต้องด้วยความจริงใจ
ดังนั้น ใครก็ตามที่แสดงตนเป็นคนสอนคนอื่น สอนธรรมะ หรือเป็นอาจารย์ หลักสำคัญต้องสอนตัวเองให้ได้เสียก่อนจึงจะสอนคนอื่นได้ ในคารวตา 6 นั้นพระพุทธองค์สอนให้เคารพใน พระศาสดา พระธรรม พระสงฆ์ การศึกษา ความไม่ประมาท และเคารพในปฎิสันถาร อยากให้ศึกษาเรียนรู้ และทำความเข้าใจให้ดี ปฎิบัติตามให้ได้ การพูดเอามัน สนุก แสวงหาคอนเทนต์โดยขาดคารวตานั้น อาจจะทำให้เป็นคนก้าวร้าว เกรี้ยวกราด แข็งกระด้าง ซึ่งองค์ธรรมกถึกและหลักคารวตานั้นไม่ได้สอนให้ปฎิบัติเช่นนี้เลย
สำหรับอ.เบียร์ นั้นอาตมาเคยพูดว่าเป็นเรื่องดีที่มีฆราวาสมาช่วยสอนธรรมะ มีอะไรที่เกินก็ปรับ อะไรที่ดีก็เดินหน้าต่อไป ไม่อยากเห็นชาวพุทธทะเลาะกันเอง ดังนั้น จึงอยากให้คิดพิจารณาไตร่ตรองให้ดี หลักมัชฌิมาปฎิปทาและสัมมาทิฎฐิ จะช่วยท่านได้
บ้านเมืองเราในเวลานี้มีปัญหาสังคมมากมาย การที่พุทธบริษัทช่วยกันเป็นภาระธุระ เอาใจใส่ในการศึกษาและเผยแผ่พระศาสนาเป็นเรื่องที่น่าสรรเสริญ แต่อาจารย์สอนธรรมทั้งหลาย ขออย่าได้เป็นชาล้นถ้วย ไม่ฟังใคร ยกตนข่มท่าน ทิ่มแทงคนอื่น ด้ามขวานถากอันอื่นได้หมด ยกเว้นถากด้ามตัวเอง พระเทพวัชรสารบัณฑิต กล่าวในตอนท้าย
©2018 CK News. All rights reserved.