บอร์ดค่าจ้าง เคาะขึ้นค่าแรง 400 ไม่ครบทุกจังหวัด มีผลทันที 1 ม.ค.68


24 ธ.ค. 2567, 05:52

บอร์ดค่าจ้าง เคาะขึ้นค่าแรง 400 ไม่ครบทุกจังหวัด มีผลทันที 1 ม.ค.68




วันที่ 24 ธ.ค. 2567  นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน  เปิดเผยผลการประชุมว่า บอร์ดค่าจ้าง คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 มีมติในการประชุมครั้งที่ 11/2567 ในวันที่ 23 ธ.ค.2567 เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2568 โดยให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มในอัตราวันละ 7 – 55 บาท (เฉลี่ยร้อยละ 2.9) แบ่งเป็น 17 อัตรา ซึ่งพิจารณาจากค่าครองชีพและโครงสร้างทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ

โดยมีอัตราสูงสุด คือ วันละ 400 บาท และอัตราต่ำสุด คือ วันละ 337 บาท โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ดังนี้

1.กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ใน 4 จังหวัด และ 1 อำเภอ ได้แก่ ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

2.กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 380 บาท ใน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

3.กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นอัตราวันละ 372 บาท ในเขตท้องที่ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวม 6 จังหวัด (เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5)

4.กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 67 จังหวัด ที่เหลือให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0

“การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นในครั้งนี้ เป็นการปรับเพื่อให้แรงงานทั่วไป แรกเข้าทำงาน สามารถดำรงชีพอยู่ได้ตามสมควรแก่มาตรฐานการครองชีพ สภาพ เศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งเหมาะสมตามความสามารถของธุรกิจในท้องถิ่นนั้น ซึ่งการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำครั้งนี้จะทำให้ลูกจ้างได้รับประโยชน์ จำนวน 3,760,697 คน” นายบุญสงค์ กล่าว

ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สำหรับ ปี 2568 คณะกรรมการค่าจ้างฯ ได้กระจายอำนาจการพิจารณา อัตราค่าจ้างขั้นต่ำไปยังภูมิภาค โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัด รวม 77 คณะ เพื่อนำข้อเสนอแนะอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัดมาพิจารณาประกอบ ข้อเท็จจริงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2560 มาตรา 87 แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ

กลุ่มที่ 1 ด้านความจำเป็นในการครองชีพของลูกจ้าง กลุ่มที่ 2 ด้านความสามารถ ในการจ่ายของนายจ้าง กลุ่มที่ 3 ด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม
โดยพิจารณาจากค่าครองชีพ ที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญ เพื่อให้ลูกจ้างมีค่าจ้างที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต และพิจารณา อยู่บนพื้นฐานของความเสมอภาค รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย เพื่อให้นายจ้าง/ลูกจ้าง สามารถประกอบธุรกิจและดำรงชีวิตอยู่ได้ ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานจะได้นำเรื่องนี้ เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป





คำที่เกี่ยวข้อง : #แรงงาน  









©2018 CK News. All rights reserved.