วันที่ 28 พ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองชุมพร รับแจ้งรถชนคนเสียชีวิตบนถนนทางหลวงชนบทสาย จ. แยกโค๊ก-ทุ่งเบี้ย หมู่ 1 ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร จึงไปตรวจสอบพบศพ นายกฤตเมธ รัตนภา อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนศรียาภัย นอนเสียชีวิตอยู่ในชุดนักเรียน 

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบอีก 2 ศพ ถูกรถเก๋งชนกระเด็นตกจากสะพานข้ามรางรถไฟ คือ ด.ญ.บุณยานุช รัตนภา อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 อยู่โรงเรียนเดียวกัน ซึ่งเป็นน้องสาวของนายกฤตเมธ ที่เจอศพแรก อยู่ในสภาสวมชุดนักเรียนเช่นเดียวกัน และอีกศพคือ นางเย็นจิตร รัตนภา อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นแม่ของทั้งสองคน

ห่างจากศพแรกประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถ จยย.ฮอนด้า สีดำ รุ่นเวฟ 110 ไอ หมายเลขทะเบียน 1 กณ 9257 ชุมพร สภาพถูกถูกชนเสยท้ายอย่างแรงจนรถอยู่ในสภาพหักงอ ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถยนต์เก๋งสีดำ ยี่ห้อ BMW หมายเลขทะเบียน กจ 44 นครศรีธรรมราช จอดสนิทอยู่บนถนนคู่ขนาน สภาพตั้งแต่กันชนไปถึงล้อด้านหน้าขวาพังยับเยิน นอกจากนี้ล้อหลังด้านขวา ยังพับหักจากอุปกรณ์ส่วนยึดล้ออีกด้วย ส่วนคนขับรถคันดังกล่าวได้หลบหนีไปแล้ว

เจ้าหน้าที่จึงตรวจค้นภายในรถพบสมุดใบคู่มือจดทะเบียนประจำรถอยู่หลายเล่ม และยังพบกระเป๋าเงินตกอยู่ภายในรถ จึงได้นำมาตรวจสอบพบว่าบัตรประจำประชาชนและบัตรขับขี่ระบุชื่อ น.ส.ภารดา แพนุ้ย ชาวจังหวัดชุมพร และยังพบขวดเหล้า เก็บอยู่ในช่องเก็บของตรงกลาง เหล้าเหลืออยู่ไม่เต็มขวด จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนเบื้องต้นตำรวจพบว่ารถ จยย.สามคนแม่ลูก กำลังขับรถ จยย.กลับจากเรียนพิเศษในตัวเมืองชุมพร เพื่อจะกลับบ้านที่ ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 6 กม. จนมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสะพานข้ามรางรถไฟ และก่อนจะลงสะพานพบว่าเป็นทางโค้งขวา สันนิษฐานว่า รถยนต์เก๋ง BMW น่าจะมาด้วยความเร็ว แล้วคุมรถไม่อยู่ หรืออาจไม่ทันสังเกตเห็น รถ จยย. หรืออาจจะหยอกเล่นอยู่กับแมว หรือคนขับอาจจะดื่มสุราจนมีอาการมึนเมา จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น หลังเกิดเหตุคนขับรถได้อุ้มแมว หลบหนีไป โดยตำรวจจะออกหมายเรียก นางสาวภารดา แพนุ้ย ว่าเป็นบุคคลเดียวที่ขับรถยนต์วันเกิดเหตุหรือเปล่า ถ้าใช่ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป