วันที่ 16 พ.ย.2567 พ.ต.ท.ปรัชญ์ แม้นเดช, พ.ต.ท.ประเวศน์ แสงพรหม พ.ต.ต.เกียรติบดินทร์ วงค์งาม สว.กก.3 บก.ปคม.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 7 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและ จังหวัดยโสธร 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. สืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และความผิดที่เกี่ยวเนื่อง และความผิดอื่นๆ ที่มีโทษทางอาญา ผ่านช่องทางออนไลน์ และสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจของ กก.3 บก.ปคม. เกี่ยวกับการชักชวนเข้ากลุ่มลับผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์(X) พบเครือข่ายสาวประเภทสองในจังหวัดยโสธร ตระเวนหาเหยื่อ ล่อลวง ชักชวน เด็กชายตามสถานที่ที่มีการจัดงานแสดงหมอลำภายในจังหวัดยโสธร และจังหวัดใกล้เคียง เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะพาเหยื่อไปรุมกระทำอนาจารแล้วแอบถ่ายคลิปวิดีโอ 

จากนั้นจะนำภาพตัวอย่างในคลิปมาโพสต์โฆษณาชักชวนเข้ากลุ่มลับที่มีการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก ซึ่งเครือข่ายดังกล่าวมี การแบ่งหน้าที่กันทำ โดยที่ผู้ต้องหาที่ 1-3 เป็นผู้กระทำอนาจาร ผลิตถ่ายทำคลิปวิดีโอ แล้วนำไปโฆษณาชักชวนเข้ากลุ่มลับผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์(X) ของตนเอง  และยังผลิตถ่ายทำคลิปวิดีโอสื่อลามกอนาจารของตนเองไปประกาศขายเช่นกัน โดยการจะเข้ากลุ่มลับของเครือข่ายดังกล่าวต้องชำระเงินก่อนเข้ากลุ่ม ซึ่งจากการตรวจสอบคลิปวิดีโอสื่อลามกอนาจารในกลุ่มไลน์ พบว่ามีสาวประเภทสองจำนวน 3 ราย แอบถ่ายวิดีโอร่วมกันรุมกระทำอนาจาร แล้วนำไปเผยแพร่ในกลุ่มลับ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากคลิปวิดีโอดังกล่าวด้วยการเก็บเงินค่าเข้าชม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ได้ขยายผลออกหมายจับผู้กระทำความผิดฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ และปูพรมตรวจค้นทั่วเมืองยโสธร จำนวน 8 จุด จนนำไปสู่การจับกุมสาวประเภทสองที่เป็นเครือข่ายเดียวกัน จำนวน 7 ราย ซึ่งจากการตรวจค้นบ้านผู้ต้องหาที่ถูกจับรายที่ 1 พบว่า ภายในบ้านดังกล่าว มีห้องที่ใช้ถ่ายทำคลิปวิดีโอรุมกระทำอนาจารเด็กชายอายุ 13 ปี พร้อมทั้งตรวจยึดโทรศัพท์มือถือที่มีการเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร จำนวน 8 เครื่อง และจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือผู้ต้องหาทั้ง 7 ในเบื้องต้น ยังพบเด็กผู้ชายที่ตกเป็นเหยื่ออีกเป็นจำนวนมาก ที่ปรากฏอยู่ในคลิปที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหารุมกระทำอนาจาร จนท.ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลพิสูจน์ทราบถึงตัวเหยื่อ และเครือข่ายกลุ่มแก๊ง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป