สืบสายไหม ร่วมสืบบางประกง ทลายแก็งลักรถรายใหญ่


30 ต.ค. 2567, 16:14

สืบสายไหม ร่วมสืบบางประกง ทลายแก็งลักรถรายใหญ่




วันที่ 30 ต.ค.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปราม สน.สายไหม ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สภ.บางปะกง เข้าทลายแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ พร้อมจับกุมนายพิทักษ์กุล หรือเบนซ์ ภาสดา อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 266/2567 ลงวันที่ 29 ต.ค. 2567 ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมอมหน้า หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็น หรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การหลบหนีและการพาทรัพย์นั้นไป นายวีรภัทร์ จะตี๋ อายุ 32 ปี นายกันต์ชยุด สถาผล อายุ 44 ปี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ จำนวน 15 คัน รถกระบะเสริมตู้ทึบ จำนวน 2 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์จำนวน 48 แผ่น แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ จำนวน 3 แผ่น โทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง อุปกรณ์สว่านไฟฟ้าและบัดกรี จำนวน 4 ชิ้น ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ 8 ใบ อะไหล่สวิตซ์สตาร์ท 14 ชิ้น โดยจับกุมได้ภายในบ้านเลขที่ 55/11 ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 55 แขวงออเงิน เขตสายไหม  กรุงเทพ

การจับกุมครั้งนี้เป็นนโยบายของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้ทุกภาคส่วนเข้มงวดการป้องกันปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด อาวุธปืน การแข่งรถในทาง การปราบปรามอาชญากรรมร้ายแรง ตลอดจนการจับกุมความผิดอาญาทั่วไป ทางพ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม จึงมีข้อสั่งการให้เจ้าตำรวจฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปราม สน.สายไหม ออกหาข่าวและออกตรวจพื้นที่อย่างเข้มงวด กระทั่งได้รับข้อมูลว่าบ้านหลังหนึ่งในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 55 แขวงออเงิน เขตสายไหม ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปจับกุมมั่วสุมกันเป็นประจำ ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้รับการประสานงานจาก ฝ่ายสืบสวน สภ.บางประกง ว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีมาอยู่ในอู่รถดังกล่าวด้วย ฝ่ายสืบสวนสน.สายไหม จึงได้บูรณาการร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางปะกง ไปตรวจสอบเพื่อติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับทึ่อู่ซ่อมรถดังกล่าว และได้พบผู้ต้องสงสัยซึ่งตรงตามบุคคลที่มีหมายจับ นั่งมั่วสุมกันในลักษณะที่เชื่อได้ว่ากำลังกระทำผิดกฎหมาย หรือมีสิ่งของที่มีไว้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย และได้พบนายพิทักษ์กุล ภาสดา ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ รวมถึงนายวีรภัทร์ และนายกันต์ชยุต ที่กำลังแยกชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์อยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นรถที่แจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา และยังพบรถจักรยานยนต์ ต้องสงสัยอีกจำนวน 14 คัน รถยนต์กระบะตู้ทึบ จำนวน 2 คัน ที่ใช้ในการขนย้ายรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หลังบ้านรวมถึงของกลางข้างต้น จึงได้ตรวจยึดมาตรวจสอบที่ สน.สายไหม

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมอมหน้า หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็น หรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การหลบหนีและการพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจรเพื่อค้ากำไร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางปะกง พร้อมของกลางรถที่แจ้งหายไว้ รถกระบะที่ใช้ขนย้าย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดไว้ อีกจำนวน 14 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ และแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ ที่พบเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่ได้มีการแจ้งหายไว้ในหลายพื้นที่ทั้ง สภ.ปลายบาง สภ.เสม็ด สภ.บางปะกง สภ.บางดสาธง และสภ.แสนสุข ซึ่งจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 





คำที่เกี่ยวข้อง : #แก็งลักรถ  









©2018 CK News. All rights reserved.