เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือเจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ มจร ได้ชี้แจงกรณีปรากฎข่าวว่ากลุ่มบุคคลที่เคยช่วยเหลือกิจกรรมของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในนามอนุกรรมการฝ่ายส่งเสริมพระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ มอบประกาศเกียรติบัตร ประกาศเกียรติคุณให้ อาจารย์หญิง และ พี่โดม เป็น ทูตส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธประจำปี 2567 ปรากฎตามสื่อทราบแล้วนั้น

พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าวต่อไปว่า มหาจุฬาฯ ได้รับทราบข่าวนี้แล้วจึงขอชี้แจงว่าเรื่องการมอบรางวัลใดๆ ในนามอนุกรรมการฯดังกล่าว มหาจุฬาฯ ไม่เคยรับทราบ ไม่ได้รับรู้ และไม่ได้ไปรับรองใดๆ รายละเอียดอื่นใด นอกเหนือจากนี้นั้นผู้รับผิดชอบโดยตรงคงจะได้ให้ความกระจ่างแก่สังคมต่อไปและในส่วนของอนุกรรมการฝ่ายส่งเสริมพระพุทธศาสนา มจร นั้น เนื่องจากหลายปีมาแล้วกลุ่มบุคคลต่างๆ รวมทั้งกลุ่มดารา นักร้อง นักแสดงและศิลปินผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้มีกุศลศรัทธามาร่วมกันทำบุญบำเพ็ญกุศลทำประโยชน์ต่างๆ ให้กับมหาวิทยาลัย นานเข้าหลายกลุ่มหลายคนจึงรวมกันเป็นอนุกรรมการฯ เพื่อส่งเสริมงานของมหาวิทยาลัย ทุกคนทำด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่มีผลประโยชน์อื่นใดแอบแฝง

และที่ผ่านมานั้น คณะดังกล่าวก็ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่อื่นใดนอกเหนือไปจากการสนับสนุนส่งเสริมกิจการของมหาวิทยาลัยให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นไปก็เท่านั้นเอง และอนุกรรมการฯ ดังกล่าว อธิกาาบดีก็ไม่ได้ลงนามแต่งตั้ง เป็นความรับผิดชอบในส่วนของอาตมาเอง

อาตมาขอรับผิดชอบในเรื่องนี้ทั้งหมด และขออนุโมทนาขอบคุณในคณะอนุกรรมการฯ ทุกท่านทุกคนที่ทำงานเหน็ดเหนื่อย เสียสละมาโดยตลอด แต่เมื่อมีเรื่องราวใดๆ เกิดขึ้นและคนในสังคมตั้งข้อสงสัยในสิ่งที่ทำว่าไม่เหมาะ ไม่ควรและโดยเฉพาะมีชื่อของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยไปปรากฎด้วย อาตมาได้พูดคุยกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ในเมื่อเป็นคนผูกก็ต้องเป็นคนแก้

จากนี้ไปคงจะต้องให้คณะอนุกรรมการฯ ทั้งหมดยุติบทบาทในนามอนุกรรมการฝ่ายส่งเสริมพระพุทธศาสนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนต่อสังคมอีกต่อไป พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าวในตอนท้าย

กรมการศาสนา ยันไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เป็นผู้พิจารณารายชื่อ แจ้งให้ลบข้อความที่อ้างกรมศาสนาออกจากประกาศเกียรติคุณดังกล่าวทั้งหมดแล้ว ขณะเดียวกัน กรมการศาสนา ได้เผยแพร่แถลงการณ์ เรื่อง โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธทั่วไทย พ.ศ. 2567-2568  โดยระบุว่า

“จากกรณีที่มีการรายงานข่าวการมอบประกาศเกีธรติคุณ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธทั่วไทย โดยแต่งตั้งบุคคลเป็นทูตส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธทั่วไทย พ.ศ. 2567-2568 และมีการมอบประกาศเกียรติคุณดังกล่าว เพื่อปฏิบัติหน้าที่รณรงค์และประชาสัมพันธ์เรื่องการท่องเที่ยววิถีพุทธและท่องเที่ยวสายศรัทธา

กรมการศาสนาขอชี้แจงว่า การมอบประกาศเกียรติคุณ ในโครงการดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกับกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม แต่อย่างใด เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้พิจารณารายชื่อของผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งประกาศเกียรติคุณ

ทั้งนี้ กรมการศาสนา ได้มีหนังสือแจ้งไปยังประธานอนุกรรมการฝ้ายกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาฯ ให้ยกเลิกข้อความที่เกี่ยวข้องกับกรมการศาสนาออกจากประกาศเกียรติคุณดังกล่าวแล้ว”