วันที่ 5 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชายแต่งกายชุดลายพรางพร้อมอาวุธปืน บุกเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่งในซอยอินทามระ 29 ซึ่งในบ้านมีคนพักอาศัยอยู่ 3 คน โดยผู้ก่อเหตุ คือ นายสันติ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐานลักทรัพย์ , บุกรุกในเวลากลางคืน ในท้องที่ของ สน.เตาปูน

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นสืบเนื่องจากตำรวจได้พยายามเข้าทำการจับกุมนายสันติ ตามหมายจับ แต่ผู้ต้องหาขัดขืนและยิงสกัดต่อสู้ ก่อนจะหลบหนีมาในบ้านพักหลังดังกล่าว ซึ่งภายในบ้านมีผู้หญิง 1 คน และผู้ชายอีก 2 คน

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ผู้ต้องหามีการพยายามปีนกำแพงเข้าไปหลบหนีในบ้าน และเมื่อเข้าไปในบ้านก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะจับคนในบ้านเป็นตัวประกันแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง และหน่วยอรินทราช ได้เข้ามาร่วมกันระงับเหตุ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบผู้ที่อยู่ในบ้านทั้ง 2 คน เป็นชาย อาชีพนายแพทย์ อายุ 30 ปี และ 31 ปี ซึ่งทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน ส่วนคนที่อยู่ในบ้านซึ่งเป็นผู้หญิงอีก 1 คนนั้น ทราบว่าได้หลบหนีออกมาตั้งแต่ช่วงแรกที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนผู้ต้องหาพบว่าหลบหนีไปได้ผ่านทางช่องระบายอากาศ ซึ่งเป็นช่องทางเดียวกับที่เข้ามาตอนแรก ก่อนจะปีนออกไปที่บริเวณด้านหลังของบ้าน ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามไล่ล่าเส้นทางการหลบหนี ยืนยันว่า ฝ่ายสืบสวนมียุทธวิธีในการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี

จากนั้น เวลาประมาณ 00.30 น.ภรรยาของนายสันติ ได้ใช้อาวุธข่มขู่ว่าจะทำร้ายตัวเอง หลังเกิดภาวะเครียดจากการที่สามีถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุม โดยเหตุดังกล่าวอยู่ที่อาคารร้างแห่งหนึ่ง บริเวณแยกสุทธิสาร ริมถนนวิภาวดี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่นายสันติถูกปิดล้อมไม่ไกลมากนัก

ทั้งนี้ หลังจากใช้เวลาเกลี้ยกล่อมกว่า 2 ชั่วโมง ภรรยาผู้ต้องหาได้ยินยอมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ แต่ยังคงใช้อาวุธพยายามขู่ทำร้ายตัวเอง พร้อมขึ้นรถไปกับตำรวจ 1 นาย ก่อนที่ตำรวจคนดังกล่าวจะขับรถออกจากจุดเกิดเหตุไปพร้อมกับภรรยานายสันติ เพียง 2 คน มุ่งหน้าไปทาง จ.นครนายก แต่ต่อมาภรรยานายสันติ ได้ลงจากรถ ก่อนหลบหนีเข้าป่าในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา