กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปรายงานเหตุอุทกภัย 16 ส.ค. - 6 ก.ย. 67


8 ก.ย. 2567, 15:59

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปรายงานเหตุอุทกภัย 16 ส.ค. - 6 ก.ย. 67




วันที่ 6 กันยายน 2567 เวลา 18.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอสรุปรายงานเหตุอุทกภัยระหว่างวันที่ 16 ส.ค. - 6 ก.ย. 67 มีสถานการณ์ในพื้นที่ 26 จ. (เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ระยอง ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง สตูล) 118 อ. 524 ต. 2,781 ม. บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 80,683 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย 11 ราย (เชียงราย 2 ราย พะเยา 4 ราย น่าน 3 ราย แพร่ 2 ราย ผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง) มีผู้เสียชีวิตจากดินถล่ม 13 ราย (ภูเก็ต) และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 19 ราย 
         ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จ. (เชียงราย สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์พระนครศรีอยุธยา) 17 อ. 97 ต. 430 ม. บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 12,251 ครัวเรือน ดังนี้
           1.1 จ.เชียงราย วันที่ 15 ส.ค. 67 เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมขังและน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมใน 2 อ. 2 ต. 3 ม. ได้แก่ อ.ขุนตาล อ.พญาเม็งราย เบื้องต้นบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 80 ครัวเรือน
มีผู้เสียชีวิต 2 ราย (อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง) ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง 
           1.2 จ.สุโขทัย วันที่ 25 ส.ค. 67 เกิดเหตุน้ำกัดเซาะตลิ่งคันดินแม่น้ำยมขาด เข้าท่วมในพื้นที่ 4 อ. 16 ต. 66 ม. ได้แก่ อ.สวรรคโลกอ.ศรีสำโรง  อ.กงไกรลาศ อ.คีรีมาศ เบื้องต้นบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 1,164 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันระดับน้ำลดลง 
           1.3 จ.พิษณุโลก วันที่ 25 ส.ค. 67 เกิดฝนตกหนักแม่น้ำยมล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 3 อ. 7 ต.15 ม. ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ อ.บางกระทุ่ม  อ.ชาติตระการ อ.เมืองฯ เบื้องต้นส่งผลให้บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 576 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น 
           1.4 จ.นครสวรรค์ วันที่ 29 ส.ค. 67 เกิดฝนตกหนักแม่น้ำยมล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 1 อ. 1 ต. 3 ม. ได้แก่ อ.ชุมแสง เบื้องต้นส่งผลให้บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 55 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว 
   1.5 จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ 2 ก.ย. 67 เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำมากขึ้นน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา
ล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 7 อ. 71 ต. 343 ม. ได้แก่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.บางไทร 
อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางปะหัน เบื้องต้นประชาชนได้รับผลกระทบ 10,376 ครัวเรือน ไม่มีได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดย สนง.ปภ.จ. อำเภอ หน่วยทหารในพื้นที่ จนท.ตร. อปท. จิตอาสา อส. อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
            2. การให้ความช่วยเหลือ
              - สนง.ปภ.จ. หน่วยทหารในพื้นที่ อำเภอ อปท. จิตอาสา อปพร.อาสาสมัคร มูลนิธิ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมมอบอาหาร น้ำดื่ม ขนย้ายสิ่งของยกของขึ้นที่สูงและเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ 
              - กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้กับจังหวัดที่ประสบอุทกภัย จำนวน 146 หน่วย ประกอบด้วย 1) รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย 24 คัน 2) เรือท้องแบนกู้ภัย 45 ลำ 3) เครื่องสูบน้ำ 14 นิ้ว 16 เครื่อง 4) รถบรรทุกเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล  4 คัน 5) รถขุดไฮดรอลิค 1 คัน 6) รถผลิตน้ำดื่ม 2 คัน 7) รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 3 คัน  เรือพลาสติก 13 ลำ 9) รถบรรทุกพร้อมเรือยนต์เคลื่อนที่เร็ว 11 ชุด 10) รถบรรทุกน้ำขนาด 12,000 ลิตร 2 คัน 11) รถบรรทุกขนาดเล็ก 11 คัน 12) รถประกอบอาหาร 3 คัน 13) รถบรรทุกติดตั้งสูบน้ำท่วม/ขัง 1 คัน 14) รถบรรทุกติดตั้งเครน 15 ตัน 2 คัน 15) รถสูบน้ำเคลื่อนที่แบบโมบายยูนิต 1 คัน 16) รถดับเพลิงพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 1 คัน 17) รถบรรทุกน้ำมัน 1 คัน 18) รถหัวลากจูง 2 คัน 19) รถเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 200 KVA 2 คัน 20) รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว 1 คัน 
21) ถุงยังชีพ 9,000 ถุง ในพื้นที่จังหวัด รายละเอียด ดังนี้
              - จ.เชียงราย ศูนย์ ปภ. เขต 15 เชียงราย สนับสนุน รถขุดตักไฮดรอลิค 1 คัน รถบรรทุกหัวลากจูง 1 คัน ในพื้นที่ อ.แม่สาย รถบรรทุกเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล 1 คัน อ.เชียงของ รถขุดไฮดรอลิค 1 คัน อ.แม่สาย รถผลิตน้ำดื่ม 1 คัน อ.พญาเม็งราย รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย 1 คัน ถุงยังชีพ ปภ. 5,000 ชุด อ.เวียงแก่น รถสูบน้ำระยะไกล 3 กม. 2 คัน เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ 8 ลำ รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย 9 คัน รถบรรทุกขนาดเล็ก 4 คัน รถบรรทุกเพร้อมเรือยนต์เคลื่อนที่เร็ว 4 คัน รถบรรทุกหัวลากจูง 1 คัน อ.เทิง    
              - จ.สุโขทัย ศูนย์ ปภ. เขต 9 พิษณุโลก สนับสนุน เครื่องสูบน้ำ 14 นิ้ว 1 เครื่อง รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย 1 คัน เรือท้องแบนกู้ภัย 2 ลำ รถยนต์กู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว 1 คัน รถบรรทุกเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล 2 คัน รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย 2 คัน รถหัวลากจูง 1 คัน รถขุดตักไฮดรอลิค 1 คัน รถบรรทุกน้ำมัน 1 คัน รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำชุดท่วม/ขัง 2 คัน รถบรรทุกติดตั้งเครน 6 ตัน 1 คัน รถเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 200 KVA 1 คัน ในพื้นที่ อ.สวรรคโลก 
              - จ.พิษณุโลก ศูนย์ ปภ. เขต 9 พิษณุโลก สนับสนุน รถบรรทุกหัวลากจูง 1 คัน รถขุดตักไฮดรอลิค 1 คัน ในพื้นที่ อ.พรหมพิราม
 - จ.พระนครศรีอยุธยา ศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี สนับสนุน รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว 1 คัน รถบรรทุกหัวลากจูง 1 คัน เครื่องสูบน้ำ 14 นิ้ว 2 เครื่อง 
         3. กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กลาง (กอปภ.ก.) ได้สั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง ดำเนินการ ดังนี้
              3.1 แจ้งเตือนจังหวัด แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาญจนบุรี ราชบุรี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต ตรัง และ จังหวัด สตูล ติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า
              3.2 จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามข้อมูลสภาพอากาศ สถานการณ์ น้ำฝน น้ำท่า หอเตือนภัย ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการสื่อสารแจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
              3.3 ศูนย์ ปภ.เขต ในพื้นที่ และศูนย์ ปภ. เขต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์และเครื่องจักรกล ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือที่ประสบอุทกภัย
              3.4 จังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือให้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด
              3.5 ให้รายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะยุติ
            จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ที่มา - ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรม ปภ.














©2018 CK News. All rights reserved.