ตม.แถลง จับหนุ่มอินเดียก่อคดีอุฉกรรจ์ 13 คดี หนีซุกไทย-จับเฒ่ามะกันอ้างขายคอร์สบำบัดโรคซึมเศร้ารวบหนุ่มจีนสวมบัตรประชาชนไทย


6 ก.ย. 2567, 17:50

ตม.แถลง จับหนุ่มอินเดียก่อคดีอุฉกรรจ์ 13 คดี หนีซุกไทย-จับเฒ่ามะกันอ้างขายคอร์สบำบัดโรคซึมเศร้ารวบหนุ่มจีนสวมบัตรประชาชนไทย




วันที่ 6 กันยายน 2567 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ( เมืองทองธานี ) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 3 คดี

คดีแรก สตม. จับหนุ่มแดนภารตะก่อคดีอุฉกรรจ์ 13 คดี ในอินเดียหนีซุกไทย

บก.สส.สตม. ได้รับการประสานงานจากศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ให้ร่วมทำการสืบสวนกรณีพบชายชาวต่างชาติลักษณะคล้ายคนอินเดียรายหนึ่งพักอาศัยอยู่ในโรงแรมในย่าน ถนนข้าวสาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ มีพฤติการณ์น่าสงสัยโดยจะเก็บตัวอยู่ภายในห้องพักผิดวิสัยของนักท่องเที่ยวทั่วไป อาจจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรืออาจจะมาก่อเหตุร้ายในประเทศไทย

จากการสืบสวนพบว่าชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวคือ MR.PARVEEN (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี สัญชาติอินเดีย จึงได้ประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตอินเดีย ประจำประเทศไทย เพื่อตรวจสอบประวัติ MR.PARVEEN ชื่อจริงคือ MR.RAKESH หรือ KALA (สงวนนามสกุล) เป็นบุคคลอันตรายซึ่งได้ก่อคดีอุกฉกรรจ์ในประเทศอินเดีย จำนวน 13 คดี ทั้งคดีฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่า ปล้น อุ้มเรียกค่าไถ่ กรรโชกทรัพย์ การโจรกรรม การเตรียมการสมรู้ร่วมคิดทางอาญา ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ส่วนหนังสือเดินทางที่ MR.PARVEEN ใช้อยู่ก็เป็นหนังสือเดินทางที่เปลี่ยนชื่อนามสกุล เพื่อใช้หลบหนีคดี ซึ่งทางการอินเดียได้แจ้งเพิกถอนหนังสือเดินทางไปแล้ว



พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม. จึงสั่งการให้ กก.1 บก.สส.สตม. เร่งสืบหาตัว MR.PARVEEN เนื่องจากเกรงว่าจะมาก่อเหตุร้ายขึ้นในประเทศไทย จนกระทั่งทราบว่า MR.PARVEEN ไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยสามเสน 6 แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ จึงร่วมกับ ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ไปตรวจสอบ และพบ MR.PARVEEN ที่ร้านอาหารภายในซอยสามเสน 4 จึงได้แสดงตัวเข้าควบคุม   นำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อกักตัวไว้รอการส่งกลับไปยังสาธารณรัฐอินเดียต่อไป

คดีที่สอง สตม.จับเฒ่ามะกันอ้างเป็น Life Coach ขายคอร์สบำบัดโรคซึมเศร้าด้วยเห็ดขี้ควาย

กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมนายดาเรียส (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี สัญชาติอเมริกัน พร้อมของกลางเห็ดขี้ควายแห้ง น้ำหนักชั่งพร้อมถุงบรรจุรวม 1,360 กรัม โดยจับกุมได้ที่บ้านพักภายในซอยลาดพร้าว 108 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ



สืบเนื่องจาก กก.1 บก.สส.สตม. ได้เข้าไปสืบหาผู้โพสต์ขายยาเสพติดในสื่อสังคมออนไลน์ พบว่านายดาเรียสได้โพสต์ขายคอร์สบำบัดโรคซึมเศร้าด้วยเห็ดขี้ควาย โดยอ้างว่าเป็น Life Coach ที่มีปริญญาโทด้านจิตวิทยา มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี จึงได้ทำการสืบหาที่อยู่ของนายดาเรียสจนทราบว่าพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งภายใน ซอยลาดพร้าว 108 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จากนั้นได้ให้สายลับติดต่อเพื่อซื้อคอร์สบำบัด โดยได้นัดให้ไปจ่ายเงิน จำนวน 2,000 บาท/คอร์ส ที่บ้านหลังดังกล่าว หลังจากสายลับได้จ่ายเงินซื้อคอร์สบำบัดให้กับนายดาเรียสแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้อาศัยอำนาจตามกฎหมายเข้าตรวจสอบ โดยนายดาเรียสไม่สามารถแสดงใบอนุญาตทำงานได้ เมื่อทำการตรวจค้นภายในบ้านพบเห็ดขี้ควายแห้งบรรจุถุงอยู่ภายในช่องแช่แข็งของตู้เย็นที่ชั้นล่าง   ของบ้าน จำนวนรวม 13 ถุง น้ำหนักชั่งพร้อมถุงบรรจุรวม 1,360 กรัม และพบเงินล่อซื้อที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้อยู่ในสมุดโน้ตบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ในห้องนอนของนายดาเรียสชั้นสอง

จากการสอบถามนายดาเรียสให้การว่า ตนทราบว่าเห็ดขี้ควาย หรือ magic mushroom มีสารสกัดสำคัญในการต้านอาการซึมเศร้าได้ และไม่ทราบว่าในประเทศไทย เห็ดขี้ควายยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษจึงได้เปิดคอร์สบำบัดผู้ที่มีอาการโรคซึมเศร้าด้วยเห็ดขี้ควาย ในราคาคอร์สละ 2,000 บาท โดยวิธีการสูบและผสมในช็อกโกแลตให้รับประทานแล้วจะเปิดเสียงเพลงกล่อมให้เคลิบเคลิ้ม และผ่อนคลาย โดยได้เปิดรับบำบัดมาเป็นเวลาประมาณเดือนเศษยังมีลูกค้าไม่เยอะ

เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



คดีสุดท้าย สตม.รวบหนุ่มแดนมังกรสวมบัตรประชาชนไทย พบประวัติฉ้อโกงประชาชน นานกว่า 14 ปี เสียหายกว่า 50 ล้านบาท

กก.4 บก.สส.สตม. ได้ทำการสืบสวนคนต่างด้าวทำการสวมบัตรประชาชนไทย พบว่า Mr.Yu(นามสมมติ) อายุ 59 ปี สัญชาติจีน มีพฤติการณ์ต้องสงสัยสวมบัตรประชาชนไทยในชื่อนายยงยุทธ์ จึงได้มีหนังสือไปยังสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย เพื่อสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล อัตลักษณ์ ประวัติการกระทำผิดของ Mr.Yu พบมีประวัติกระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน ในสาธารณรัฐประชาชนจีน โดย Mr.Yu ได้เปิดบริษัทประกอบกิจการโรงแรม และได้ชักชวนหลอกลวงกลุ่มผู้เสียหาย เข้ามาร่วมลงทุน มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท ก่อนหนีเข้ามาในประเทศไทย กก.4 บก.สส.สตม. จึงได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Mr.Yu ส่งให้กับกรมการปกครองเพื่อตรวจสอบ

ต่อมากรมการปกครอง ได้มีคำสั่งเพิกถอนบุคคลชื่อนายยงยุทธ์ ออกจากฐานระบบทะเบียนราษฎร์ จากการสืบสวนของ กก.4 บก.สส.สตม. ทราบว่าหลังจากที่ Mr.Yu  ได้เดินทางออกจากประเทศไทยทางจังหวัดสระแก้ว เพื่อไปยังประเทศกัมพูชา ได้หลบหนีเข้ามายังประเทศไทยอีกครั้งโดยผ่านช่องทางธรรมชาติ แล้วได้สวมบัตรประชาชนไทยในชื่อนายยงยุทธ์ อาศัยอยู่ในประเทศไทย มานานกว่า 14 ปี โดยพักอาศัยอยู่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ส่วนป้องกันและปรามปรามการทุจริตทางทะเบียน และบัตรประจำตัวประชาชนสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ส่วนการสอบสวนคดีอาญา สำนักการสอบสวนและนิติการ นำหมายค้นของศาลแขวงพระนครเหนือเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ Mr.Yu พร้อมบัตรประชาชนไทยชื่อนายยงยุทธ์

โดย Mr.Yu ให้การรับสารภาพว่าได้หลบหนีเข้ามาที่ประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติและทำการสวมบัตรประชาชนไทย เมื่อปี พ.ศ.2553 และได้อยู่ในประเทศไทยมาโดยตลอด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับในส่วนการกระทำความผิดในเรื่องของการสวมบัตรและการใช้บัตรประชาชนที่ได้มาจากการกระทำความผิด กรมการปกครองได้พิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





คำที่เกี่ยวข้อง : #สตม.  









©2018 CK News. All rights reserved.