"สาววัย 19" ควบจยย. ข้ามเลน ชนประสานงารถกระบะขับสวนทางมาอย่างจัง ร่างกระเด็นกระแทกพื้นดับอนาถ


27 พ.ค. 2562, 08:39

"สาววัย 19" ควบจยย. ข้ามเลน ชนประสานงารถกระบะขับสวนทางมาอย่างจัง ร่างกระเด็นกระแทกพื้นดับอนาถ




เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 26 พฤษภาคม 62 พ.ต.ท.สุขสันต์ ยิ้มแย้ม สว.สอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถ จยย.ชนกับรถยนต์กระบะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย บนถนนกรมทางหลวงชนบท สายวัดประเดิม ม.2 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบ
 

 

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าบ้านพักของนายชัยรัตน์ วัฒนจิตต์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตากแดด บนถนนฝั่งมุ่งหน้าไปทางวัดประเดิม พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือ นางสาวรวงข้าว มลการนา อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 ม.6 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร สภาพนอนหายใจโรยริน ขาขวาหัก ศรีษะแตก เจ้าหน้าที่พยาบาลของโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พร้อมหน่วยกู้ชีพของมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ต้องช่วยกันปั๊มหัวใจ  เพื่อยื้อชีวิตแต่นางสาวรวงข้าวทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
 



จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบอรน ตอนครึ่ง ทะเบียน บย 7467 ชุมพร จอดหันหน้ามุ่งไปทางเข้าเมืองชุมพร สภาพบริเวณหน้าของรถด้านขวามือถูกชนอย่างแรจนพังยับเยิน มีนายสมรัฐ คล้ายประยูร อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 240/2 ถนนไตรรัตน์ ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นคนขับ ห่างจากหน้ารถกระบะไปประมาณ 10 เมตร อยู่เลนเดียวกันพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ทะเบียน ขคธ 535 ชุมพร สภาพล้อด้านหน้าพังยับเยิน ซึ่งรถคันดังกล่าว นางสาวรวงข้าว มลนาการ เป็นคนขับ และมาเพียงคนเดียว


จากการสอบสวนนายสมรัฐ คนขับรถยนต์กระบะ ได้ให้การว่า ตนเองพร้อมกับภรรยาและญาติ กำลังขับรถกลับจากไปทำธุระที่ อ.สวี จ.ชุมพร โดยขากลับได้ใช้ถนนสายดังกล่าวเพื่อกลับบ้านพักซึ่งอยู่เข้าเมือง เพราะเห็นว่าถนนสายนี้ใกล้กว่า ที่จะเข้าทางสี่แยกปฐมพร กว่า 4 กม.โดยวิ่งมาไม่เร็วมาก จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ ได้เห็นรถ จยย. ได้วิ่งสวนทางมาด้วยความเร็ว วิ่งข้ามเลนพุ่งเข้าที่รถตนอย่างรวดเร็ว  ทำให้ตนไม่สามารถจะหักรถได้ทัน ชนประสานงาอย่างจัง จนทำให้นางสาวรวงข้าวเสียชีวิตดังกล่าว

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้บันทึกเหตุการณ์ ก่อนนำตัวนายสมรัฐ ได้สอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมนำภาพกล้อวงจรปิดจากบ้านนายก อบต.มาตรวจสอบ เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป











©2018 CK News. All rights reserved.