วันที่ 26 พ.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.ต.ต.ยุทธนา ภูเก้าแก้ว สว.(สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันบนถนนแสงชูโต หน้าร้านจิวเบเกอรี่ ตลาดบ้านโป่ง ห่างจากโรงพักบ้านโป่ง ประมาณ 100 เมตร เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง จึงพร้อม พ.ต.อ.ศิริชัย ไชยดี ผกก. พ.ต.ต.สุรวุฒิ เกษมสุข สว.สส. พร้อมกำลังสายตรวจและชุดสืบสวน รีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน คคล 615 ราชบุรี ล้มอยู่กลางถนน และพบกองเลือด ส่วนผู้ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมาคือ นายพชร ไชยเรืองกิตติ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 ถ.ประชานิยม เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ถูกนำส่ง โรงพยาบาลบ้านโป่ง ไปก่อนหน้า สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .32 ที่หน้าผากซ้ายกระสุนถากไปทางคิ้วซ้าย ไหลขวา ใบหูขวา และด้านหลัง รวม 4 แห่ง อาการสาหัส ถูกนำตัวส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด.32 ตกอยู่ 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบ นายพชร ผู้บาดเจ็บ นั้นเป็นลูกชาย ร้านขายเสื้อผ้าดัง ในตลาดบ้านโป่ง ก่อนเกิดเหตุ ได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ออกมาจากร้าน เพื่อมาทำธุระแถวหน้า สภ.บ้านโป่ง หลังจากนั้นก็ได้ขับรถมุ่งหน้าจะกลับร้าน รถวิ่งมาได้ประมาณ 100 เมตร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 25-30 ปี ใส่เสื้อแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขาสามส่วน ใส่หมวกแก๊ปสีดำ และมีแมสสีขาวปิดปาก ใช้รถจักยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีแดง-ดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับตามหลังมาติดๆ จากนั้นได้ชักอาวุธปืนออกมา ยิงใส่ 1 นัด ทำให้รถจักรยานยนต์ นายพชร ล้มลง คนร้ายได้จอดรถทิ้งรถให้ล้มลง แบบเร่งรีบ แล้วตรงเข้าไปยิงซ้ำอีก 5 นัดซ้อน ทามกลางสายตาชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ต่างพากันหมอบเพื่อหลบคมกระสุนเพื่อเอาชีวิตรอด หลังจากคนร้าย ระเบิดกระสุนใส่แล้ว ก็ได้วิ่งมายกรถจักรยายนต์ของตัวเองขึ้น พร้อมกับติดเครื่องขับหลบหนีไปทางวงเวียนช้าง ส่วนนายพชร ถูกกระสุนปืน ยังพอมีสติ ได้วิ่งข้ามถนนมาขอความช่วยเหลือ ชาวบ้านจึงนำส่งโรงพยาบาลบ้านโป่งและถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี
สำหรับสาเหตุคนร้ายบุกยิง นายพชร กลางตลาดบ้านโป่ง กลางวันแสกๆ ครั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่สามารถสอบปากคำผู้บาดเจ็บได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า น่าจะมาจากเรื่องความแค้นส่วนตัว ซึ่งคู่อริบังเอิญ มาพบเจอ นายพชร จึงได้ใช้อาวุธปืนไล่ยิงเพื่อล้างแค้น อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงและติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
©2018 CK News. All rights reserved.