สตม.จับยกแก๊งปล้นทรัพย์นักเทรดอังกฤษ พร้อมรวบแก๊งชาวเมียนมาอ้างเป็นนักธุรกิจซื้อขายทองลวงเหยื่อกว่า3ล้าน


16 ก.ค. 2567, 12:08

สตม.จับยกแก๊งปล้นทรัพย์นักเทรดอังกฤษ พร้อมรวบแก๊งชาวเมียนมาอ้างเป็นนักธุรกิจซื้อขายทองลวงเหยื่อกว่า3ล้าน




วันที่ 16 ก.ค.2567 ตามนโยบายของ สานักงานตารวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สานักงานตารวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ สตม. สกัดก้ัน ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบ ธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดาเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในขณะที่พานักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทาผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทาให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามา แฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทาความผิด

ภายใต้การอานวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักด์ิ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก. สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ. บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสาคัญ ดังนี้
1. จับยกแก๊งปล้นทรัพย์นักเทรดอังกฤษ
กก.2 บก.สส.สตม. จับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ จานวน 3 ราย ดังนี้
1. MR.ABDULLAHI (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี สัญชาติเดนมาร์ก
2. MR.MOHAMED (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี สัญชาติบริติช
3. MR.SAEED (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี สัญชาติบริติช ซ่ึงเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ กระทาความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัว,ร่วมกันทาร้ายผู้อ่ืนจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธ ให้กระทาการใด ไม่กระทาการใด หรือจายอมต่อสิ่งใด โดยทาให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ โดยใช้กาลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทาการนั้น ไม่กระทาการน้ัน หรือจายอมต่อสิ่งนั้น, ร่วมกันกักขังหน่วงเหน่ียวหรือกักขังผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทาง สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร” นาตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดาเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม MR.ABDULLAHI จับท่ีหน้าโรงแรมในย่าน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี MR.MOHAMED และ MR.SAEED จับท่ี POOLVILLA ในย่านถนนเทพประสิทธ์ิ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี


จากกรณีได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เม่ือวันท่ี 12 ก.ค.2567 เวลาประมาณ 02.00 น. ผู้เสียหายได้ถูก MR.ABDULLAHI พร้อมกับพวกรวม 5 คน ร่วมกันทาร้ายร่างกายและเอา ทรัพย์สินของผู้เสียหายไป ได้แก่ นาฬิกา ย่ีห้อ Audemars piguet 1 เรือน นาฬิกา ย่ีห้อ Rolex 1 เรือน และทรัพย์สินอ่ืน
 

รวมมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท เหตุเกิดที่ ห้องพักในแมนชั่นย่าน ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติออกหมายจับนาย MR.ABDULLAHI, MR.MOHAMED, MR.SAEED, MISS SUMYA (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี สัญชาติบริติช และหญิงชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ กก.2 บก.สส.สตม. จึงได้นาข้อมูลผู้ต้องหาบันทึกไว้ในบัญชีเฝ้าดูในระบบสารสนเทศ ตม. และทาการสืบสวนติดตาม หาตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย จนทราบว่า MR.ABDULLAHI, MR.MOHAMED และ MR.SAEED หลังจากก่อเหตุได้หลบหนี ไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จว.ชลบุรี จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวน สน.คลองตัน ไปสืบสวนหาตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย จนกระทั่งทราบว่า MR.ABDULLAHI พักอาศัยที่ โรงแรมในย่าน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชลบุรี และ MR.MOHAMEDกับMR. SAEEDพักอาศัยที่POOLVILLA ในย่านถนนเทพประสิทธิ์5ต.หนองปรืออ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงเข้าทาการจับกุมดังกล่าว

นอกจากนี้ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ยังได้ตรวจพบว่า MISS SUMYA ผู้ต้องหาตามหมายจับจะเดินทางออกจาก ประเทศไทยไปยังกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย จากการตรวจค้นกระเป๋าเดินทางพบช่อดอกกัญชาบรรจุในถุงสุญญากาศ ขนาด 500 กรัม จานวน 50 ห่อ น้าหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 25 กิโลกรัม จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร และ ป.ป.ส. ประจาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุมในความผิดฐาน พยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสมุนไพรควบคุม (ช่อดอกกัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากร ตามกฎหมายศุลกากร มาตรา 242 มาตรา 166 มาตรา 167 และมาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 นาตัวส่ง พนักงานสอบสวนสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดาเนินคดีตามกฎหมาย และพนักงานสอบสวนสน.คลองตันจะได้ ดาเนินการตามหมายจับต่อไป


2. รวบแก๊งชาวเมียนมาอ้างเป็นนักธุรกิจซื้อขายทอง หลอกลวงเหยื่อให้ร่วมลงทุน มลู ค่าความ เสียหายกว่า 3 ล้าน กก.ปอพ.บก.สส.สตม. จับกุม MR.U WIN (นามสมมุติ) อายุ 65 ปี สัญชาติเมียนมา ตามหมายจับศาลแขวง ดุสิต ที่ จ.79/2567 ลงวันที่ 14 พ.ค.2567 ต้องหาว่ากระทาความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” นาตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดาเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุมบริเวณหน้าโรงแรมย่าน ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ
จากกรณีที่ แก๊งชาวเมียนมา ประกอบด้วย MR.U WIN (นามสมมติ), MR.THAW TE (นามสมมุติ), MRS.CHO LIN อ้างว่าเป็นนักธุรกิจซื้อขายทองคาในประเทศเมียนมามีฐานะร่ารวยมาก ต้องการซื้อทองคาจานวนมาก เพื่อนาไปขายต่อ ได้พูดจาหว่านล้อมผู้เสียหายพร้อมทั้งยืนยันให้ความเชื่อมั่น หลังจากนั้นได้หลอกลวงให้ผู้เสียหาย เป็นผู้ติดต่อประสานงานในการซื้อทองคาจากคลังทองคาที่ห้างทองในย่านเยาวราช และเพื่อเป็นหลักประกันว่ามีทองคา ในคลังทองคาอยู่จริง MR.U WIN กับพวกได้หลอกลวงผู้เสียหายให้วางเงินเป็นหลักประกันทองคาดังกล่าว และยืนยันว่า หากคลังทองคาขายทองคาใหจ้ ะคืนเงินที่ผู้เสียหายวางเป็นหลักประกันคืน จนผู้เสียหายหลงเชื่อส่งมอบเงินหลักประกัน ใหจ้ านวน 7 ครั้ง รวมเป็นเงิน 3,135,000 บาท ภายหลังคลังทองคาตกลงจะขายทองให้กับกลุ่มดังกล่าวแล้ว แต่ปรากฏ ว่า MR.U WIN กับพวก ไม่มีเงินซื้อทองคา และไม่คืนเงินที่ผู้เสียหายได้วางไว้เป็นหลักประกัน ผู้เสียหายทวงถามให้คืน เงิน โดยไม่สามารถติดต่อ MR.U WIN กับพวก ได้อีกเลย ซึ่งทราบว่ากลุ่มแก๊งชาวเมียนมา ทั้ง 3 ราย ได้หลบหนีเดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้ว ผู้เสียหายจึงแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสน.พญาไทซึ่งต่อมาพนักงาน สอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคาร้องต่อศาลแขวงดุสิตออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้จานวน 3 ราย กก.ปอพ. บก.สส.สตม. จึงได้ประสานข้อมูลกับ สน.พญาไท เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ตอ้ งหา จนกระทั่งทราบว่า MR.U WIN หนึ่งในแก๊งชาวเมียนมาดังกล่าว ได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยและได้หลบหนีหมายจับไปพักอาศัยอยู่ในท้องที่ จว.นนทบุรี และในท้องที่ บก.น.2 จึงได้สืบสวนติดตามจับกุมนาตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดาเนินคดีตาม กฎหมาย ส่วนผู้ร่วมขบวนการที่เหลือจะได้ดาเนินการสืบสวนติดตามจับกุมมาดาเนินคดีต่อไป


สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทาความผิด ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทาความผิด กรุณาแจ้งมายัง สานักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th 





คำที่เกี่ยวข้อง : #สตม.  









©2018 CK News. All rights reserved.