สตม.รวบหนุ่มไต้หวันตุ๋นเงินรัฐ- หนุ่มญี่ปุ่นแก๊งอาชญากรข้ามชาติ หนีกบดานไทย


10 ก.ค. 2567, 12:39

สตม.รวบหนุ่มไต้หวันตุ๋นเงินรัฐ- หนุ่มญี่ปุ่นแก๊งอาชญากรข้ามชาติ หนีกบดานไทย




วันที่ 10 มิ.ย.2567 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ท.ชูฉัตร ธารีฉัตร ผทค.พิเศษ ตร. รรท.รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักด์ิ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ รอง ผบก.ตม.5 ปฏิบัติราชการ บก.ตม.1, พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผกก.4, พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สส.บก.ตม.1 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสาคัญ ดังนี้

1. สตม. รวบหนุ่มไต้หวันหัวหมออยู่เกนิ วีซ่า ปลอมใบรับรองแพทย์หลอกกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ในไต้หวัน ตนุ๋ เงนิ สวัสดกิ ารรัฐไปนับล้าน
กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับว่าพบเห็นชายสัญชาติไต้หวันพักอาศัยอยู่ซอยแจ้งวัฒนะ 10 ถ.แจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักส่ี กรุงเทพฯ สงสัยว่าจะเข้ามาอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จึงได้สืบสวน หาข่าวจนทราบว่าชายชาวไต้หวันดังกล่าวคือ MR.WEI CHIA-MING (นามสมมติ) อายุ 53 ปี ซ่ึงการอนุญาตให้อยู่ใน ราชอาณาจักรได้สิ้นสุดแล้วและได้ประสานงานกับ สานักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจาประเทศไทย เพื่อตรวจสอบประวัติพบว่า MR.WEI CHIA-MING มีประวัติก่ออาชญากรรมในความผิดฐานฉ้อโกงเงินของรัฐบาล โดยการปลอมแปลงเอกสารใบรับรองแพทย์ของบุคคลอื่นและแอบอ้างเป็นทนายความเพื่อเบิกเงินสวัสดิการ ประกันสังคม ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นแรงงานคนไทยที่เคยไปทางานท่ีไต้หวัน มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท แล้วได้เดิน ทางเข้ามาในประเทศไทย กก.สส.บก.ตม.1 จึงเฝ้าติดตามสืบสวนหาข่าวจนทราบเบาะแสว่า MR.WEI CHIA-MING ได้ แอบมาหลบซ่อนตัวอยู่กับหญิงไทยในย่านหลักสี่ กรุงเทพฯ จึงได้วางแผนจับกุม จนกระทั่งพบ MR.WEI CHIA-MING ที่ บริเวณกลางซอยแจ้งวัฒนะ 10 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักส่ี กรุงเทพฯ จึงได้จับกุมในข้อหา เป็นคนต่าง ด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตส้ินสุด นาตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดาเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป


2. สตม. ซ้อนแผน รวบหนุ่มแดนปลาดิบแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ ลอบอยู่เกินวีซ่า เหิมขู่ฆ่า อดีตแฟนสาว พบประวัติเอี่ยวแก๊งอุ้มโหดกลางกรุงโตเกียวMr.ICHIRO (นามสมมติ) อายุ 30 ปี สัญชาติญี่ปุ่นจากกรณีที่ กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับการประสานงานจากพนักงานสอบสวนในสังกัด บช.น. ให้ดาเนินการ สืบสวนติดตาม Mr.ICHIRO (นามสมมติ) อายุ 30 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งมีพฤติการณ์เข้าลักษณะเป็นภัยต่อสังคม เนื่องจากได้มี นางสาวบี (นามสมมติ) สัญชาติไทย ผู้เสียหาย มาแจ้งความลงบันทึกประจาวันกับพนักงานสอบสวน ว่าได้ถูก
Mr.ICHIRO อดีตแฟนหนุ่มทาร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า Mr.ICHIRO อยู่ใน
ราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และได้ติดต่อขอข้อมูลจากผู้เสียหาย รับแจ้งว่า Mr.ICHIRO มีอารมณ์รุนแรง มักจะ
ส่งข้อความมาขู่ฆ่า ส่งรูปอาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือคลิปวิดิโอที่ถ่ายในบริเวณละแวกบ้านพักของผู้เสียหายมาเพื่อ
คุกคาม และแสดงให้เห็นว่าผู้เสียหายถูกติดตามและจับตาดูอยู่ ต่อมา กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับข้อมูลจากครอบครัว
ของผู้เสียหายว่า Mr.ICHIRO อยู่ในอาการคล้ายมึนเมา ก้าวร้าว เดินทางมาวนเวียนหาตัวผู้เสียหาย โดยส่งคลิปสถานที่
ละแวกบ้านของผู้เสียหาย พร้อมทั้งข้อความขู่ฆ่า ตั้งแต่ช่วงกลางดึกถึงช่วงเช้า กก.1 บก.สส.สตม. จึงวางกาลังคุ้มครอง ผู้เสียหาย และ เฝ้าคอยตรวจสอบ Mr.ICHIRO ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนนอกเครื่องแบบที่แฝงตัวอยู่บริเวณ
บ้านพักของผู้เสียหาย พบรถยนต์หรูยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด ต้องสงสัยมาวนเวียนไปมาที่บริเวณริมถนนหน้าสถานี บริการน้ามัน ปตท. ถ.เจริญกรุง แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ จึงได้ขอตรวจสอบ พบว่า Mr.ICHIRO
น่ังอยู่ในรถยนต์คันดังกล่าว จึงไดจ้ ับกุมดาเนินคดีในข้อหาดังกล่าว
อนึ่งจากการประสานข้อมูลกับทางการญี่ปุ่นรับแจ้งว่า Mr.ICHIRO เป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมมีชื่อ ในประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมกับพวกรวม 5 คน ก่อคดีอุ้มลักพาตัว ทาร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว ในเขตกรุงโตเกียว หลังจากนั้นได้เดินทางมากบดานในประเทศไทย และมาก่อความรุนแรงกับหญิงไทยจนถูกจับกุมดังกล่าว

3. รวบหัวหน้าแก๊งรัสเซียปลอม นาเข้า จาหน่าย หนังสือเดินทางปลอม และหลอกทาหนังสือ เดินทาง ความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท
กก.4 บก.สส.สตม. ร่วมกับ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. จับกุม นายอาเทม (นามสมมต)ิ อายุ 44 ปี สัญชาติรัสเซีย ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 557/2567 ลงวันที่ 26 มิ.ย.2567 ในความผิดฐาน "ทาหนังสือเดินทางปลอมขึ้น ทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดฯ, จาหน่ายหนังสือเดินทางปลอมฯ, นาเข้าหนังสือเดินทางปลอมฯ" นาตัวส่งพนักงาน สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดาเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ห้องพักในคอนโดมิเนียมย่าน ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.4.บก.สส.สตม. ร่วมกับ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. ได้สืบสวนในทางลับเกี่ยวกับองค์กร อาชญากรรมข้ามชาติที่ทาหนังสือเดินทางปลอม ซึ่งจากการสืบสวนทราบวา่ ขบวนการดงั กลา่ วมกี ารนาเขา้ หนงั สอื เดนิ ทาง และจาหน่ายหนังสือเดินทางปลอมในประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับภาพถ่ายหน้าหนังสือเดินทางปลอม ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจากการตรวจสอบภาพถ่ายหนังสือเดินทางดังกล่าวโดยละเอียด พบลักษณะพิรุธมีความ ผิดปกติหลายจุด น่าเชื่อว่าจะเป็นหนังสือเดินทางปลอมของประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้มีหนังสือสอบถามไปยังหน่วย
  กก.สส.บก.ตม.1 จับกุม
ในข้อหา เป็นคนต่างด้าวอยู่ใน
ราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นาตัวส่ง พนักงานสอบสวน กลุ่มงาสอบสวน บก.สส.สตม. ดาเนินคดีตามกฎหมาย
สถานที่จับกุม หน้าสถานีบริการน้ามัน ปตท. เจริญกรุง 87 ถ.เจริญกรุง แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ


สืบสวนอาชญากรรมข้ามชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา Overseas Criminal Investigations Unit (OCIU) ประจา ประเทศไทย และได้รับการยืนยันว่า "หนังสือเดินทางดังกล่าวเป็นหนังสือเดินทางปลอม"
จากการสืบสวนพบว่าขบวนการดังกล่าวได้มีการลงโฆษณาอย่างโจ่งแจ้งในแอปพลิเคชัน VK, Telegram, WhatsApp และผ่านเว็บไซต์ (passpart.pro) ว่าสามารถทาหนังสือเดินทางได้ 15 สัญชาติ ซึ่งเป็นการขอสัญชาติแบบ ถูกต้อง โดยมีการชาระเงินผ่านบัญชีเงินดิจิทัล และได้มีการเปิดบริษัทในประเทศไทยเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ มีผู้เสียหายหลายคนหลงเชื่อและได้ทาการติดต่อไป ซึ่งผู้เสียหายหลายรายไม่ได้รับหนังสือเดินทาง และบางรายที่ได้รับ หนังสือเดินทางก็เป็นหนังสือเดินทางที่ปลอมขึ้น จากการตรวจสอบพบว่าหนงั สอื เดนิ ทางทปี่ ลอมขนึ้ ดงั กลา่ วนนั้ สง่ มาโดย บริษัทขนส่ง FEDEX จากประเทศโดมินิกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทาการประสานกับหน่วยสืบสวนอาชญากรรมขา้ มชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่าหัวหน้าของกลุ่มขบวนการ ดังกล่าวคือ นาย อาเทม (นามสมมติ) สัญชาติรัสเซีย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอรายงานการสืบสวนต่อ ผู้บังคับบัญชาและร้องทุกข์ต่อ พงส.บก.สส.สตม. เพื่อดาเนินการตามกฎหมาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.4.บก.สส.สตม., กก.ปอพ.บก.สส.สตม. ได้ทาการขออนุมัติหมายจับจาก ศาลอาญากรุงเทพใต้ ให้จับกุมนาย อาเทม ในข้อหา "ทาหนังสือเดินทางปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดฯ, จาหน่ายหนังสือเดินทางปลอมฯ, นาเข้าหนังสือเดินทางปลอมฯ" และได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อพบตัวบุคคลตามหมายจับและเพื่อพบพยานหลักฐาน จากการเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทาการจับกุม นายอาเทมตามหมายจับดังกล่าว พร้อมกับตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องจานวน 12 รายการ เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก สมุดบัญชีและบัตรเครดิตของต่างประเทศ ซึ่งจากการตรวจสอบขยายผลพบว่า ขบวนการดังกล่าว มีการแบ่งหน้าที่กันทา มีบุคคลที่อยู่ต่างประเทศที่ประเทศโดมินิกันรับคาสั่งในการทาหนังสือเดินทางปลอม นายอาเทม ทาหน้าที่โฆษณาและพูดคุยกับผู้เสียหายทั้งหมดและจัดการเรื่องเงินที่ได้รับจากผู้เสียหาย ทั้งนี้ผู้เสียหายไม่ทราบว่า หนังสือเดินทางนั้นเป็นของปลอม ทาให้มีผู้หลงเชื่อเป็นจานวนมาก โดยการติดต่อซื้อขายนั้นกระทาผ่านแอปพลิเคชัน TELEGRAM โดยความเสียหายที่ตรวจพบในเบื้องต้นทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท






คำที่เกี่ยวข้อง : #สตม.  









©2018 CK News. All rights reserved.