สตม. แถลงรวบคู่รักชาวจีนหลอกขายนาฬิกาปลอม-ไกด์เถื่อนชาวเวียดนาม


3 ก.ค. 2567, 17:22

สตม. แถลงรวบคู่รักชาวจีนหลอกขายนาฬิกาปลอม-ไกด์เถื่อนชาวเวียดนาม




วันที่ 3 มิ.ย.2567  ตามนโยบายของ สานักงานตารวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักด์ิ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สานักงานตารวจแห่งชาติ ไดส้ ่ังการให้ สตม. สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดาเนินการ ตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พานักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทาผิด กฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทาให้เกิดความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติท่ีเข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการ กระทาความผิด

ภายใต้การอานวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักด์ิ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดารงชัย ผกก.สส.บก.ตม.๓ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุม ผู้ต้องหารายสาคัญ ดังนี้



1. กก.สส.บก.ตม.3 รวบหนุ่มเวียดนาม ไกด์เถื่อน ปล้นเพื่อนร่วมชาติ มูลค่าความเสียหายกว่า ล้านบาท กก.สส.บก.ตม.3 จับกุม MR.NONG (นามสมมติ) อายุ 25 ปี สัญชาติเวียดนาม ตามหมายจับศาลอาญา พระโขนง ที่ จ.501/2566 ลงวันที่ 28 ส.ค.2566 ต้องหาว่ากระทาความผิดฐาน “ชิงทรัพย์โดยร่วมกันกระทาความผิด ด้วยกันต้ังแต่สามคนข้ึนไป ผู้นั้นกระทาความผิดฐานปล้นทรัพย์, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น, ทาร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็น เหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” นาตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ดาเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ริมถนนเศรษฐกิจ 1 ม.2 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร
สืบเนื่องจาก เม่ือวันที่ 21 ส.ค.2566 เกิดเหตุปล้นทรัพย์ในท้องที่ สน.พระโขนง จากการสืบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มวัยรุ่นสัญชาติเวียดนาม มีพฤติการณ์หลอกเหย่ือว่าเป็นไกด์นาเที่ยว โดยจะเลือกเหยื่อสัญชาติเวียดนาม เนื่องจากสามารถสื่อสารกันเข้าใจ วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันท่ี 16 ส.ค.66 ทางท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิ ต่อมา MR.NAM ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นชาวเวียดนามผู้ก่อเหตุ ได้รับการติดต่อจาก MR.TRAN (ผู้เสียหาย) สัญชาติเวียดนามกับเพื่อนรวม 8 คน ให้เป็นไกด์นาเที่ยว โดย MR.TRAN กับเพ่ือนท้ัง 8 คน ได้เช่าบ้านพัก อยู่ในซอยสุขุมวิท 101 ถนนปุณณวิถี 49 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. ของ วันที่ 21 ส.ค.2566 MR.NAM พร้อมพวกจานวน 7 - 8 คน ได้เข้ามาที่บ้านพักดังกล่าวแล้วใช้อาวุธมีดปลายแหลม ขู่บังคับให้ MR.TRAN กับเพื่อนให้เข้าไปอยู่ในห้องพัก จากนั้นใส่กุญแจมือและใช้โซ่เหล็กล่ามขา MR.TRAN กับเพื่อนไว้ ในห้อง แล้วไดท้ าร้ายร่างกายและบังคับให้ MR.TRAN กับเพ่ือนส่งมอบเงินสดและโทรศัพท์มือถือให้ ในเวลาต่อมาได้มี เพ่ือนของ MR.TRAN มาเรียกท่ีบริเวณหน้าบ้านพัก MR.NAM กับพวกจึงได้พากันหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ MR.TRAN
 

จึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง หลังก่อเหตุกลุ่มวัยรุ่นชาวเวียดนาม ได้หลบหนีออกนอก ประเทศไทยทางจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพ 2 ในวันที่ 26 ส.ค.2566 ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคาร้องต่อศาลอาญาพระโขนงออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้จานวน 13 ราย กก.สส.บก. ตม.3 จึงได้ประสานข้อมูลกับ สน.พระโขนง เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่า MR.NONG หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นชาวเวียดนามผู้ก่อเหตุและศาลได้อนุมัติหมายจับ ได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยและได้หลบหนี หมายจับไปพักอาศัยอยู่ในท้องที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร จึงได้ติดตามจับกุมนาตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ดาเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

2.รวบคู่รักแสบจีน-คาซัคนานาฬิกาปลอมหรูเกรดA+ หลอกขายร้านนาฬิกาแบรนดัง ความเสียหายกว่า 12 ล้านบาท
กก.4 บก.สส.สตม. จับกุมคนต่างด้าว จานวน 2 ราย ดังนี้
1. นายอัลคัส (นามสมมติ) อายุ 32 ปี สัญชาติคาซัค ตามหมายจับของศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.163/2567 ลงวันที่ 21 พ.ค.2567 ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
2. นางสาวบิลลี่ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี สัญชาติจีน ตามหมายจับของศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.164/2567 ลงวันที่ 21 พ.ค.2567 ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดาเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม คอนโดมิเนียมภายใน ซ.สุขุมวิท 32 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ


จากกรณีที่นายอัลคัส และนางสาวบิลลี่ ผู้ต้องหา ได้ร่วมกันหลอกให้นายหน้านานาฬิกายี่ห้อ Patek Philippe ของผู้ต้องหา โดยแจ้งกับผู้เป็นนายหน้าซื้อขายว่าจะจ่ายเงินค่าตอบแทนในการนาไปขายให้ เรือนละ 800 ดอลล่าห์สหรัฐ เมื่อนายหน้าตกลง ผู้ต้องหาได้นานาฬิกายี่ห้อ Patek Philippe พร้อมเอกสารจากร้านที่รับตรวจสอบ นาฬิกาที่มีชื่อเสียง โดยอ้างว่าเป็นเอกสารรับรองของจริง เมื่อนายหน้าได้นานาฬิกาไปขายให้กับร้านนาฬิกาชื่อดัง แห่งหนึ่งซึ่งเป็นผู้เสียหาย จากนั้นนายหน้าได้โอนเงินให้กับผู้ต้องหาจากการขายนาฬิกาจานวนหลายครั้ง เมื่อเจ้าของ ร้านนาฬิกาผู้เสียหาย ได้ทาการตรวจสอบพบว่านาฬิกาและเอกสารรับรองนาฬิกาเป็นของปลอม รวมมูลค่าการซื้อขาย กว่า 12 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อให้ดาเนินคดีกับผู้เป็น นายหน้าและได้มีการเจรจายอมความกันโดยนายหน้ายินยอมชดใช้ค่าให้หายให้กับผู้เสียหาย และได้แจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้ดาเนินคดีกับนายอัลคัส นางสาวบิลลี่ ซึ่งต่อมาศาลแขวงพระนครใต้ได้ออก หมายจับนายอัลคัส นางสาวบิลลี่ ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” นั้น
กก.4 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่าพบเห็นนายอัลคัส นางสาวบิลลี่ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ใน ห้องพักของคอนโดมิเนียมภายใน ซ.สุขุมวิท 32 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงได้สืบสวนและ รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาลแขวงพระนครใต้เข้าทาการตรวจค้นห้องพักดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ นายอัลคัส และนางสาวบิลลี่ จึงได้จับกุมนาตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดาเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



3. รวบหนุ่มเมืองเบียร์ OVERSTAY พบประวัติก่อคดีพยายามฆ่าเพื่อนร่วมชาติ
กก.2 บก.สส.สตม. จับกุม นายอัลเมด (นามสมมติ) อายุ 28 ปี สัญชาติเยอรมัน ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าว อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” นาตัวส่ง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดาเนินการคดกี ฎหมาย สถานที่จับกุม โรงแรมภายในซอยสุขุมวิท ๔ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

กก.2 บก.สส.สตม. ได้รับการร้องเรียนว่ามีโรงแรมภายในซอยสุขุมวิท 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ บางแห่งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยแล้วไม่แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทราบ จึงได้ไปตรวจสอบ โดยระหว่างตรวจสอบพบนายอัลเมด จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางและข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่าการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไดส้ ิ้นสุดแล้ว จึงได้สอบถามไปยังสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจาประเทศ ไทยรับแจ้งว่านายอัลเมดเป็นหนึ่งในสมาชิกองค์กรอาชญากรรมไดก้่อเหตุทะเลาะวิวาทและได้พยายามฆ่าโดยใช้อาวุธ ปืนยิงฝ่ายตรงข้ามจานวน 4 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส กก.2 บก.สส.สตม.จึงทาการจับกุมดาเนินคดีในข้อกล่าวเป็นคน ต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และหลังจากคดีสิ้นสุดจะได้ส่งนายอัลเมดกลับไปยังประเทศเยอรมนี ต่อไป





คำที่เกี่ยวข้อง : #สตม.  









©2018 CK News. All rights reserved.