ภรรยา-บุตรสาว ยังทำใจไม่ได้ที่เสาหลักของบ้าน " หัวหน้านักดับเพลิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ "


9 พ.ค. 2562, 17:50

ภรรยา-บุตรสาว ยังทำใจไม่ได้ที่เสาหลักของบ้าน " หัวหน้านักดับเพลิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ "




วันที่ 9 พ.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่า ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียน ชุมชนวัดพายทอง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง  ซึ่งเป็นอาคารเรียนไม้ 2 ชั้น ที่บริเวณด้านล่างเป็นโรงอาหาร ส่วนด้านบนเป็นอาคารเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6  และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1  ได้รับความเสียหายเกือบหมดทั้งหลัง  ซึ่งอยู่ระหว่างการประเมินค่าเสียหาย  โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 20.00 น.  ของวันนี้ 8 พ.ค. 62  และได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด  จนทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เกิดความเศร้าสลดเมื่อ จสอ.บุญช่วย  ชุ่มยิ้ม  อายุ 53 ปี  หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  เทศบาลตำบลศาลาแดง  ได้เกิดหมดสติขณะเข้าควบคุมเพลิง  ทางเจ้าหน้าที่ที่เห็นเหตุการณ์ได้เข้าทำการช่วยเหลือโดยการทำ CPR แล้วได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลป่าโมก  อย่างเร่งด่วน  และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา  ภายหลังทราบว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง  ซึ่งทางแพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปทำการชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์  ศูนย์รังสิต  เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต

 

 

 

 

สำหรับบรรยากาศการจัดเตรียมงานศพและรดน้ำศพผู้เสียชีวิต  บริเวณศาลาการเปรียญ  วัดพายทอง  ตำบลสายทอง  อำเภอป่าโมก  ซึ่งจะมีพิธีรดน้ำศพ จสอ.บุญช่วย  ชุ่มยิ้ม  ในเวลา 16.00 น. ของวันนี้  มีบรรดาข้าราชการ  พนักงาน  และลูกจ้าง  เทศบาลตำบลศาลาแดง  เดินทางมาให้กำลังใจ  และช่วยกันเตรียมงานศพ  โดย นาง จุฑามาศ  ชุ่มยิ้ม  อายุ 53 ปี  และนางสาวบุญชิภา  ชุ่มยิ้ม  อายุ 26 ปี  ภรรยาและบุตรสาว  ยังอยู่ในอาการที่เศร้าโศกเสียใจกับการจากไปอย่างกะทันหันของสามี และบิดา  อย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน  เปิดเผยว่า  กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน  ทางตนเองและมารดาไม่ได้คาดคิดมาก่อนจึงเตรียมใจไม่ทัน  ซึ่งตนเองไม่คิดว่าคุณพ่อจะด่วนจากไปเร็วขนาดนี้  ทางครอบครัวรู้สึกรักและคิดถึงคุณพ่ออยู่ตลอดเวลา  และขอบคุณที่พ่อเลี้ยงดูช่วยเหลือครอบครัวมาตลอด  ตนเองรู้สึกภูมิใจมากที่พ่อเสียสละตัวเองในการช่วยเหลือสังคมอย่างแท้จริง 

              ส่วนทางด้าน นาย คมกฤษ  ทิพย์สวัสดิ์  อายุ 26 ปี  และนาย ทรงวุฒิ  ไก่กิจ  อายุ 27 ปี  เจ้าหน้าที่ดับเพลิง  เทศบาลตำบลศาลาแดง  เล่าเหตุการณ์ในช่วงที่เกิดเหตุให้ฟังว่า  ขณะที่กำลังเข้าเวรอยู่ในวันเกิดเหตุ  ในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.  ได้รับแจ้งจาก สภ.ป่าโมก  ขอสนับสนุนรถน้ำดับเพลิง  เพื่อเข้าทำการควบคุมเพลิงเหตุเพลิงไหม้ป่าหญ้าแล้วลุกลามใกล้บ้านเรือนประชาชน  บริเวณป่าหญ้าหลังวัดพายทอง  ตำบลสายทอง  อำเภอป่าโมก  ตนเองพร้อมผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา  ได้เดินทางมาช่วยกันดับเพลิงที่ลุกไหม้อย่างรุนแรง  โดยใช้เวลาในการควบคุมเพลิงอยู่หลายชั่วโมง  หลังจากเพลิงสงบได้กลับมายังที่ตั้ง  จนได้รับแจ้งขอกำลังสนับสนุนรถดับเพลิงว่าได้เกิดเพลิงไหม้โรงเรียนชุมชนวัดพายทอง  จึงได้เดินทางมาช่วยดับเพลิงพร้อมด้วยรถน้ำดับเพลิงจากที่ต่าง ๆ  จำนวนกว่า 15 คัน  ซึ่งผู้เสียชีวิตมีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ตำบลสายทอง  จึงได้เดินทางมาถึงก่อนและได้เข้าไปช่วยดับเพลิง  โดยวิ่งฝ่ากลุ่มควันเข้าไปเปิดหน้าต่างของอาคารเรียน  เพื่อที่จะให้ทำการฉีดน้ำเข้าไปดับเพลิงได้ง่าย  เมื่อวิ่งออกมาถึงรั้วของโรงเรียน  ตนเองเห็นผู้เสียชีวิตเหมือนจะเป็นลมหมดสติหน้าคว่ำลงกับพื้น  จึงวิ่งเข้าไปช่วยประคอง  และไม่หายใจแล้ว  จึงได้ช่วยกันทำ CPR  ก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาลป่าโมก  และเสียชีวิตในเวลาต่อมา  ตนเองและเจ้าหน้าที่รู้สึกเสียใจมาก  และขอชื่นชมการทำหน้าที่ของผู้เสียชีวิต  ขอให้จากไปอย่างสงบ

 

 

 

 

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่เร่งตรวจสอบ และเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ  เพื่อสรุปหาสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียนในครั้งนี้  คาดว่าคงจะทราบถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในไม่เกินสัปดาห์หน้า  ทางด้าน  นาย สิทธิพงษ์  บุษพงษ์  อายุ 31 ปี  ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดพายทอง  เปิดเผยว่า  ทางโรงเรียนจะทำการเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล  ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3  ตามกำหนดการปกติ  เด็กนักเรียนทั้งหมด จำนวน 105 คน  สามารถมาเรียนได้ตามปกติ  ในวันที่ 16 พ.ค. 62  ซึ่งทางโรงเรียนมีอาคารเรียน จำนวน 2 หลัง  ในส่วนที่เกิดเพลิงไหม้เป็นอาคารเรียนของเด็กนักเรียนชั้นประถามศึกษาปีที่ 4 - 6  และมัธยมศึกษาปีที่ 1  และโรงอาหารที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด  รวมถึงอุปกรณ์เครื่องครัว  ซึ่งทางโรงเรียนจะรีบดำเนินการให้ทันเปิดภาคเรียน  ในส่วนของห้องเรียนจะมีการจัดเตรียมห้องเรียนให้เด็กนักเรียนในระดับชั้นที่ห้องเรียนเกิดเพลิงไหม้ได้เรียน  ในส่วนของอาคารเรียน อีก 1 หลัง  ที่ยังคงไม่ได้รับความเสียหาย  โดยมีนางสาวเบญจวรรณ  ฟักแก้ว  นายอำเภอป่าโมก  ผู้ใหญ่บ้าน  กำนัน  และคณะกรรมการสถานศึกษา  คอยให้การช่วยเหลือสนับสนุนอุปกรณ์และค่าใช้จ่ายบางส่วน  เพื่อให้นักเรียนได้เปิดภาคเรียนตามปกติต่อไป

 

 

 














©2018 CK News. All rights reserved.