ตร.ไซเบอร์ แถลงผลบุกค้นรังเงินกู้นอกระบบพัทลุงกว่า 10 ล้าน 


25 พ.ค. 2567, 14:04

ตร.ไซเบอร์ แถลงผลบุกค้นรังเงินกู้นอกระบบพัทลุงกว่า 10 ล้าน 




วันที่ 25 พ.ค. 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.ขจร อบทอง รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงผลปฏิบัติการ FULL STEAM บุกค้นรังเงินกู้นอกระบบพัทลุงพร้อมยึดทรัพย์กว่า 10 ล้าน

พ.ต.อ.บัญชา กล่าวว่า ในคดีของการบุกค้นรังเงินกู้นอกระบบพัทลุง สืบเนื่องจากเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาบก.สอท.5 ได้รับเรื่องร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากหนี้นอกระบบ จึงได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติหมายค้นและได้นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคารหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.6 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร และสามารถจับกุม น.ส.ดาราพร (สงวนนามสกุล)แอดมินเพจเฟซบุ๊กเงินกู้นอกระบบพร้อมอาวุธปืนได้ภายในอาคารดังกล่าว จากการสอบสวน น.ส.ดาราพร ทำให้ทราบว่าถูดว่าจ้างจากนายทุนรายหนึ่งในราคา 25,000 บาท ให้ดูแลกลุ่มเฟซบุ๊กปล่อยกู้หนี้นอกระบบ และให้คอยติดตามทวงหนี้จากลูกหนี้จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งติดตามตัวนายทุนรายนี้  จนต่อมาเจ้าหน้าที่ บก.สอท.5 ได้ลงพื้นที่สอบสวนจนทราบว่านายทุนรายดังกล่าวคือ น.ส.เณศรา อายุ 33 ปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมนำกำลังเข้าตรวจคันพื้นที่เป้าหมายเครือข่ายดังกล่าว จำนวน 3 จุด โดยตรวจยึดของกลางจากทั้ง 3 เป้าหมายหลายรายการ รวมมูลค่าของกลางทั้งหมดกว่า 10 ล้านบาท

พ.ต.อ.บัญชา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้น.ส.เณศรา ได้หลบหนีการจับกุมไปได้ เจ้าหน้าที่จึงได้มีการเเจ้งข้อหา "ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 4 ตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 ความผิดตาม ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ลงวันที่ 26 ม.ค. 2525 ข้อ 5 ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับในทางการค้าปกติ โดยไม่ขออนุญาตจาก รัฐมนตรีฯ และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี" นำของกลางส่งพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งเดินหน้าไล่ล่าผู้ต้องหาที่หลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





คำที่เกี่ยวข้อง : #ตำรวจไซเบอร์  









©2018 CK News. All rights reserved.