จากกรณีเจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าจับหนุ่มใหญ่วัย 52 เจ้าของฟาร์มปูนิ่มที่เกาะลันตา ครอบครองนกเหยี่ยวแดง สัตว์ป่าสงวนหายาก ดำเนินคดีเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 9 พ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิรัตน์ หลักทอง อายุ 52 ปี เป็นคนพื้นที่ ม.6 ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ได้ติดต่อมายังผู้สื่อข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ในการครอบครองนกเยี่ยวแดงที่ถูกจับกุม เพื่อเปิดความจริงอีกด้านให้สังคมเข้าใจและรับทราบ
โดย นายนิรัตน์ เปิดเผยว่า นกเหยี่ยวแดงทั้ง 3 ตัว ที่ถูกจับกุมนั้น ตนได้มาจากการที่เด็กและชาวบ้านหาปูดำ ได้นำมาให้ตนที่ฟาร์มปูนิ่ม ตนสงสารเห็นว่ายังเป็นลูกนก หากินเองไม่ได้ จึงรับเลี้ยงไว้ภายในฟาร์ม ที่ผ่านมาเคยคิดที่จะนำไปปล่อยหลายครั้ง แต่เพื่อนบ้านทักท้วงว่า นกยังเล็กออกหาอาหารเองไม่ได้ ปล่อยไปก็คงอดตายให้เลี้ยงไว้ก่อน ส่วนตัวคิดว่านกเมื่อโตเต็มวัยออกหากินได้แล้ว คงจะบินหนีไปเอง ส่วนที่ต้องมัดขาไว้เนื่องจากเมื่อปล่อยให้อยู่อย่างอิสระ จะถูกนกตัวอื่นรุมตีอยู่บ่อยครั้ง และยืนยันว่านกที่เลี้ยงไว้ไม่ได้เลี้ยงเพื่อการค้า นำไปขายให้ผู้ประกอบการโรงแรม ในราคา 5,000 บาทแต่อย่างใดตามที่เป็นข่าว วอนสังคมเข้าใจ โดยระหว่างถูกควบคุมตัวที่สภ.เกาะลันตา ได้ยื่นประกันในวงเงินห้าหมื่นบาท เพื่อประกันตนออกมา
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา นายสุวัฒน์ สุขศิริ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทุ่งทะเล จ.กระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 426 กระบี่ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันที่ 4 ภาคใต้ จำนวนกว่า 10 นาย เข้าทำการตรวจสอบที่บ้านไม่มีเลขที่ ม.3 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ หลังสืบทราบว่าที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเปิดเป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงปูนิ่ม ได้มีการครอบครองเลี้ยงเหยี่ยวแดง สัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบในกรงข้างบ้านมีนกเหยี่ยวแดง จำนวน 3 ตัว อายุประมาณ 2 เดือน ถูกล่ามขาไว้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดนกเยี่ยวแดงดังกล่าวพร้อมคุมตัวผู้ครอบครองดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งเหยี่ยวแดงนั้นเป็นสัตว์หายากและเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองด้วย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เกาะลันตาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คลิป
©2018 CK News. All rights reserved.