วันที่ 23 เม.ย. 2567 พ.ต.ท.อภิชา เทพจันทร์ สว.กก.5 บก.ปคม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม.ร่วมกันจับกุม นางสาวสกุลณาฯ หรือแม่โบว์ อายุ 41 ปี  บริเวณร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
 

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการช่วยเหลือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จึงได้ทำการซักถาม และขยายผล กระทั่งทราบข้อมูลว่า เมื่อปลายปี 2566 น.ส.เอ ได้ไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่ร้านคาราโอเกะดังกล่าว โดยมี นางสาวสกุลณาฯ หรือแม่โบว์  เป็นเจ้าของร้าน ขณะทำงานที่ร้าน น.ส.สกุลณาฯ หรือแม่โบว์ ได้พูดจาหว่านล้อม ชักชวน น.ส.เอ ว่าหากต้องการมีรายได้เพิ่มขึ้น สนใจรับงานขายบริการฯให้กับลูกค้าหรือไม่ จนกระทั่ง น.ส.เอ ยอมตกลงรับงาน โดย น.ส.สกุลณาฯ หรือแม่โบว์ ทำหน้าที่ติดต่อ แนะนำ หาลูกค้าให้กับ น.ส.เอ ขายบริการทางเพศจำนวนหลายครั้ง ซึ่ง น.ส.สกุลณาฯ หรือแม่โบว์ จะได้รับค่าตอบแทน เป็นเงินค่านายหน้าครั้งละ 600 บาท  ขณะที่ น.ส.เอ ได้รับเงินค่าตอบแทน เป็นค่าตัวต่อครั้ง จำนวน 900 บาท รวมค่าตัวทั้งหมดเป็นเงิน 1,500 บาท
 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้เข้าทำการจับกุม นางสาวสกุลณา อุดมสุข หรือแม่โบว์ ได้ที่ร้านคาราโอเกะ ตั้งอยู่ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 

จากการตรวจสอบประวัติคดีอาญาพบว่า นางสาวสกุลณาฯ หรือแม่โบว์ เคยต้องหาคดีอาญาเกี่ยวกับค้าประเวณี และตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย และเคยตกเป็นผู้ต้องหา ในฐานความผิด “เป็นตัวการ แต่งเครื่องแบบลูกเสือ หรือประดับ เครื่องหมายลูกเสือโดยไม่มีสิทธิ์ฯ...”  และปรากฏเป็นข่าวโด่งดังในสื่อต่างๆ มีการแชร์ภาพ และคลิปวีดีโอแต่งชุดเนตรนารีสร้างคอนเทนท์ เด็กนั่งดริ๊งก์แต่งชุดเนตรนารีเพื่อดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการที่ร้านคาราโอเกะซึ่งเป็นสถานที่น.ส.เอ (นามสมมุติ) เคยหลอกมาขายบริการทางเพศ ลงสื่อโซเซียล ทำให้มีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก
 

สอบถามนางสาวสกุลณาฯ ให้การว่า ก่อนหน้านี้เคยเปิดร้านคาราโอเกะเป็นอีกชื่อนึง แต่เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจท้องที่ได้ตรวจขันและเข้มงวดอย่างมาก จึงไม่สามารถเอาเด็กมาลงได้ จึงได้ปิดกิจการไปแล้ว และมาเปิดร้านใหม่ ในพื้นที่ดังกล่าว