สืบนครบาลรวบครูเปรมอนาจาร และปล่อยคลิบลับ ลูกศิษย์ตะลึงพบคลิบลับ กว่า 10 คน


15 มี.ค. 2567, 11:40

สืบนครบาลรวบครูเปรมอนาจาร และปล่อยคลิบลับ ลูกศิษย์ตะลึงพบคลิบลับ กว่า 10 คน




วันที่ 15 มีนาคม  2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.  สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช    ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายวัชรวิทย์ สูงนารถ หรือเปรม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.9 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีทีจ.173/2567 ลงวันที่ 21 ก.พ. 67
           
ข้อหา “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและนเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ มีลักษณะอันลามก”

จับกุมตัวได้ที่ ห้องพักครู โรงเรียนขอสงวนชื่อ  ตำบลบ่อยาง  อำเภอเมือง  จังหวัดสงขลา

พฤติการณ์กล่าวคือ เด็กสาว ม.ปลาย อายุ 16 ปีก้มกราบเท้าผู้เป็นแม่เพื่อขอ “ฆ่าตัวตาย” เรื่องราวสุดแสนหดหู่ใจเกิดขึ้นในครอบครัวเล็กๆในย่านฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ เมื่อบุตรสาวคนเดียวของครอบครัวต้องเจอกับอาชญากรผู้ใคร่เด็กในคราบ “ครูฝึกสอน“กระทำจนเธอตายทั้งเป็น โดยจุดเริ่มต้นเรื่องราวเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2565 เมื่อเด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายวัย 16 ปี ได้เข้าเรียนชั้น ม.4 ที่โรงเรียนหญิงล้วนย่านภาษีเจริญ แล้วได้พบกับ “ครูเปรม” หนุ่มร่างสูงหน้าตาดีวัย 25 ปี ดีกรีจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน ซึ่งเป็นครูฝึกสอนในโรงเรียนของเธอ ด้วยความสูงหล่อคารมดี แต่ภายในคือจิตใจที่ “ใคร่เด็กสาว” มันมักพุ่งเป้าไปที่เด็กสาวที่หัวอ่อนและล่อลวงง่าย เคราะห์ร้ายจึงมาตกที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) เด็กสาว ม.4 วัย 16 ปี ที่มันเดินผ่านห้องเรียนเธอทุกวันและแอบมองเธอทุกกิจกรรมในโรงเรียน ก่อนจะอาศัยความเป็นครู ตีสนิทใช้หลักการตกลง “เป็นแฟน” กัน  มันฉวยโอกาสที่เธอยอมทุกอย่าง “ถ่ายคลิปลับ” โดยหลอกเด็กสาวว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นแฟนกัน และเวลาก็ผ่านไปครูเปรมหลบหนีการเกณฑ์ทหารด้วยการบินไปอยู่ประเทศเยอรมัน เป็นเวลากว่า 9 เดือน ด้วยระยะทางที่ไกลกัน และทั้งสองตกลงเลิกกันในที่สุด ผ่านไปจนกระทั่งปลายปี 2566 เด็กสาวเธอเติบโตขึ้นเข้าสู่ช่วงมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 และกำลังได้พบกับความรักครั้งใหม่ เธอโพส์สภาพคู่รักใน ig (อินสตาร์แกรม) ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเรื่องราวสุดแสนหดหู่ได้เริ่มขึ้น เมื่อจู่ ig ของเธอก็มีคนติดตามเพิ่มขึ้นมาจำนวนมากอย่างไม่มีเหตุผล จนมีพลเมืองดีได้ทักไปบอกกับเธอว่า “คลิปลับ” ของเธอได้หลุดในโลกอินเตอร์เน็ต และเมื่อพลเมืองดีดังกล่าวเปิดวาร์ปให้เธอเข้าไปดูคลิปก็พบว่าเป็นคลิปลับระหว่างเธอกับครูหนุ่ม สมัยที่เธออยู่ ม.4 และที่เลวร้ายมากคือการโพสชื่อ ig ของเธอไว้ในคลิปนั้นด้วย ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเพื่อนที่มหาวิทยาลัยของเธอเริ่มทักหาเธอในเรื่องนี้  มันเลวร้ายเกินกว่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจะรับได้จริงๆ เธอกลายเป็นคนซึมเศร้าเหมือนคนจิตหลุดลอยและไม่ไปเรียนที่วิทยาลัย ผู้เป็นแม่เห็นความผิดปกติโอบกอดลูกสาวที่เหมือนคนไร้วิญญาณ เสียงสั่นเครือพร้อมน้ำตาเล่าให้ทีมสืบสวน ผู้การจ๋อ ว่า “หนูขอลาออกได้มั้ย หนูไปโรงเรียนไม่ได้จริงๆ” สัญชาตญาณของแม่สัมผัสได้ทันที จึงเริ่มสอบถามลูกสาวตัวเองจนทราบว่า หลังจากที่เธอเลิกกับครูรายนั้นแล้ว ครูยังคอยทักมาหาเด็กสาวพยายามโน้มน้าวให้กลับไปพลอดรักกันดังเดิมอยู่เรื่อยๆ ซ้ำยังเข้ามาแอบส่อง ig ของเธออยู่ตลอด ลักษณะเหมือนคนโรคจิต ชนวนระเบิดของการปล่อยคลิปนั้นคือภาพคู่กับแฟนใหม่ใน ig ที่ไปกระตุ้นความคลั่งเด็กของคนร้ายรายนี้ ผู้เป็นแม่ไม่เพียงแต่ทุกข์ใจที่ลูกถูกกระทำ ยังทุกข์ใจที่เด็กสาวตัวน้อยต้องแบกรับเรื่องนี้มาโดยลำพัง ความหดหู่ไปทั้งครอบครัว สุดท้ายจนเธอดีขึ้นและกำลังจะเดินทางไปแจ้งความ เสมือนฟ้าฝ่ากลางใจ เมื่อคลิปลับได้ถูกปล่อยออกมา “ระลอกที่ 2” โดยถูกปล่อยเว็บไซส์ใหญ่มีผู้เข้าชมในจำนวนมาก สติของเด็กสาวเริ่มดับวูบ  ผู้เป็นแม่ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีการออกหมายจับครูรายนี้ในที่สุด ความยุติธรรมกำลังจะมาถึง แสงสว่างปลายอุโมงค์ เรื่องราวนี้กำลังจะจบลง ดังใบมีดกรีดหัวใจ


       
“ระลอกที่ 3” คลิปลับถูกปล่อยอีกครั้งและครานี้ยังถูกปล่อยในไปโลกโซเชียลของสถาบันที่เด็กสาวศึกษาอยู่  แม่เล่าต่อว่า มันสะท้านไปทั้งหัวใจ ลูกสาวตัดสินใจก้มกราบเท้าผู้เป็นแม่พร้อมกล่าวอำลา “หนูขอตาย” ความรู้สึกสุดสุดพร้อมน้ำตา   สภาพเด็กสาว ณ ตอนนี้ไม่ต่างจากคน “ตายทั้งเป็น” ต้องจับไอ้ครูโรคจิตนี้ให้ได้ผู้เป็นแม่สัญญากับตัวเอง “แสงสุดท้าย” แม่ของเด็กสาวขอความช่วยเหลือมาที่ “สืบนครบาล”

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งชุดสืบทีมมือดียกเลิกทุกภารกิจและให้ไล่ล่าไอโรคจิตรายนี้ทันที โดยชุดสืบสวนสืบได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่าครูภัยร้ายรายนี้เคยมีพฤติกรรมทำกับเด็กนักเรียนหญิงในลักษณะนี้มาแล้ว จนถึงขั้นถูกไล่ออกจากการเป็นครูฝึกสอนในโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านพญาไท  และคนร้ายกำลังคบหากับ “เด็กสาว” รายใหม่ซึ่งยังมีอายุน้อย และคนร้ายพึ่งจะเข้าบรรจุเป็นครูอัตราจ้างอยู่ในโรงเรียนชื่อดังย่านหาดสมิหลา จ.สงชลา จึงนำกำลังบุกจับทันที และสามารถจับกุมตัวได้ในที่ห้องพักครูภายในโรงเรียน จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์พบคลิปการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กนักเรียนไม่ต่ำกว่า 15 คลิป และมีภาพวาบหวิวที่นักเรียนส่งมาให้อีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย และยังพบแชทสนทนาคุยสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเด็กนักเรียนอีกหลายราย จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง โดยระหว่างนี้อยู่ระหว่างขยายผลที่ บก.สส.บช.น.

ชั้นจับกุม นายวัชรวิทย์ฯ ให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าทำการพรากเด็กไปมีเพศสัมพันธ์และถ่ายคลิปไว้จริง แต่ไม่ยอมรับว่าเป็นผู้ปล่อยคลิปดังกล่าว โดยให้การว่า “ตนเองจบปริญญาตรีคณะครุศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน ตนมีรสนิยมหรือสเปค ชอบ หญิงสาวผมยาว สวมใส่แว่นตา โดยเฉพาะเด็กสาวที่สวมเครื่องแบบนักเรียนมัธยม หรือชุดนักศึกษา และสวมใส่แว่นตา  และในส่วนรสนิยมการมีสัมพันธ์กับน้องผู้เสียหาย นั้น ยอมรับว่าตนมีรสนิยมทางเพศที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงคือ ชอบให้ตนเองผูกมัดมือ มัดเท้า ในลักษณะ “ขึงพืด” และเอาผ้าปิดตา สวมใส่เครื่องแบบนักเรียนตนเองชอบมักจะนำโทรศัพท์มาบันทึกคลิปวิดีโอลับ เป็นคลิปสั้นๆ จำนวนหลายคลิป เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกและเป็นความชอบส่วนตัว ส่วนเรื่องคลิปหลุด ตนรับว่าได้ถ่ายคลิปไว้จริง โดยบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือเครื่องส่วนตัวและเก็บไว้ดูเอง และบันทึกลงในโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คส่วนตัวเท่านั้น มิได้บันทึกลงในฐานข้อมูลออนไลน์แต่อย่างใด น่าจะเป็นตอนที่ตนเองนำโทรศัพท์ไปซ่อมตอนอยู่ประเทศเยอรมัน ส่วนที่มีการแปะ ig ผู้เสียหายนั้นตนเองขอไม่ตอบ” หลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย

         
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า  “จากการสืบสวน คนร้ายนี้ถือว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง ซึ่งสภาพภายนอกดูดี มีโปรไฟล์จบการศึกษาในมหาวิทยาลัยระดับสูง แต่โดยลึกในจิตใจมีลักษณะใคร่เด็ก หรือ pedophilia ที่เด่นชัดในคดีนี้คือพยายามที่จะกระทำกับเด็กซ้ำๆ และจากการสืบสวนพบพยานหลักฐานบรรดาเหล่านักเรียนที่เคยเป็นลูกศิษย์ของคนร้ายหลายราย เข้าข่ายถูกกระทำในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน โดยคนร้ายเคยผ่านการสอนในโรงเรียนมัธยมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 โรงเรียน เชื่อได้ว่ายังมีผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่ออีกหลายราย   สืบนครบาลขอเป็นกำลังใจให้กับน้องผู้เสียหายทุกคน และหากคนร้ายในคราบครูคนนี้ก่อเหตุอื่นอีก ขอให้แจ้งผู้ปกครองหรือบุคคลที่ไว้ใจติดต่อ พวกพี่ที่เพจ “สืบนครบาล IDMB”  พี่ๆพร้อมจะคืนความเป็นธรรมให้กับน้องๆทุกคน ขอให้เข้มแข็ง โดยมีความกล้านำตัวคนร้ายลงโทษให้ถึงที่สุด   พวกพี่ สืบนครบาล จะทำลายคลิปลับทั้งหมดให้สิ้นสุดท้ายพวกพี่ ขอเป็นกำลังใจให้ น้องๆทุกคน ครับ





คำที่เกี่ยวข้อง : #สืบนครบาล  









©2018 CK News. All rights reserved.