วันนี้(ที่ 12 มี.ค.67)  จากกรณีที่เพจดัง ที่ใช้ชื่อว่า “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ Part 6”ได้มีการโพสต์ข้อความระบุว่า” พี่สื่อข่าวท้องถิ่นแจ้งเรื่องมา วัยวุฒิคุณวุฒิของพระคุณท่านระดับเจ้าอาวาสแล้วไม่น่าจะคิดน้อยนะ  ดราม่า ระดับสาวประเภทสอง นัดรวมตัวกันไปที่วัด ที่ตำบลเฉนียง อำเภอเมืองจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งพระ เป็นเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่ง-สาวสองรวมตัวกันไปวัดวันพรุ่งนี้ 14:00 น.”พร้อมรูปภาพของเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า

“วิทยา หลวงแอร์ ผิวงาม”ที่ได้มีการโพสต์ข้อความว่า”ถ้านางฟ้านางสวรรค์สภาพนี้ ฉันขอตกนรกตลอดกาล”พร้อมรูปภาพนางรำที่สวมชุดนางอัปสรา ที่กำลังร่ายรำ จำนวน 7 คน และมีภาพเพสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า”หม่อมแม่มัช บิวตี้ซาลอน” โพสต์ข้อความว่า”ยางไง กะเทย”พร้อมรูปภาพที่พิมพ์ข้อความวว่า “พรุ่งนี้นัดรวมตัวกันน่ะบรรดาสาวๆสองทั้งหลาย บ่ายตรงโมง ที่ อบต.ท่าสว่าง ไปวัดกัน” ก่อนที่จะมีชาวโซเชี่ยลเข้าไปวิพากย์วิจารณ์เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า”วิทยา หลวงแอร์ ผิวงาม”ถึงความไม่เหมาะสมที่ใช้คำพูดบูลลี่ดูถูกกลุ่มนางรำทั้ง 7 คน เป็นจำนวนมาก  ก่อนที่ล่าสุดพบว่าเฟสบุ๊คของที่ใช้ชื่อว่า”วิทยา หลวงแอร์ ผิวงาม”ได้ลบข้อความและรูปภาพออกไปแล้ว เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.67)

 ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อมูลกับกลุ่มนางรำเบื้องต้นยังไม่สะดวกเปิดเผยชื่อ และจะขอเปิดเผยความจริงในช่วงบ่ายวันนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวทราบเบื้องต้นว่า ผู้ที่โพสต์ดังกล่าว เป็นพระ อยู่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.เฉนียง (ฉะ-เนี๋ยง) อ.เมือง จ.สุรินทร์ กลุ่มนางรำ จึงเกิดความไม่พอใจ และได้รวมตัวกัน แจ้งความเอาผิดไว้แล้ว เมื่อเวลา  19.00 น.ของคืนที่ผ่านมา ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ โดยนางรำทั้ง 7  คนเป็นสาวประเภทสอง ที่ไปรำอาสาด้วยใจ เป็นภาพในงานพระราชทานเพลิงศพพระครูโสภณธรรมาภิมณฑ์ (วิรัติ โสภณสีโล) ผศ.ดร. อายุ 85 ปี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดยานนาวาพระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร อดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดอาม็อง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่ เมรุวัดอาม็อง เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา ซึ่งภาพกลุ่มนางรำดังกล่าวได้เคยถูกเฟสบุ๊คเดิม โพสต์ตำหนิในลักษณะนี้มาแล้วหลังจากงานพระราชทานเพลิงศพได้ 1-2 วัน ก่อนจะลบทิ้งไป และพึ่งมาโพสต์อีกครั้ง เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.67) ก่อนจะเป็นเรื่องดังกล่าว และจะมีการรวมตัวสาวสองทั้งจังหวัดและต่างจังหวัดอีกด้วย

 ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโสภณธรรมาราม ต.เฉนียง  อ.เมือง จ.สุรินทร์  เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับพระที่ใช้เฟสบุ๊คดังกล่าวและได้พบกับนายพศุตม์  ขอดเมชัย ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ แต่งชุดราชการ  นายวณัฐพงษ์ เสนาะเสียง กำนันตำบลเฉนียง พร้อมด้วยพระครูปลัดวิทยา โสภณวัณโน เจ้าอาวาสวัด และเป็นผู้ที่โฟสต์ข้อความดังกล่าวในนาม “วิทยา หลวงแอร์ ผิวงาม”โดยนายพศุตม์  ขอดเมชัย ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ ได้กล่าวตักเตือน พระครูปลัดวิทยา ให้ระมัดระวัง ในการโฟสต์ข้อความที่ไม่สมควร เพราะทางญาติโยมตีประเด็นได้หลายรูปแบบ เป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับบุคลภายนอก ข้อความที่กระทบกับอีกคนอีกกลุ่ม กระจายและรวดเร็ว โดยเฉพาะการกระจายข้อความทางโลกโซเชี่ยล มันไปได้รวดเร็วมาก  ขอให้พระครูปลัดวิทยา ได้ระมัดระวังในเรื่องนี้ การที่ท่านโฟสต์ไปก้ไม่ได้ที่จะสร้างความเกลียดชังกัน การที่ท่านเป็นสณสารูป การพูดการจาก็ต้องสำรวมให้มาก ท่านเป็นพระนักเทศก์ ที่มีชื่อเสียง ท่านต้องสำรวมให้มาก เราไม่ได้ว่ากล่าวตักเตือนท่านเพียงแต่ถวายคำแนะนำท่านในบางเรื่อง สำรวม การพูดการจา การเขียนหนังสือ สำรวมทั้งกาย วา ใจ สื่อสารในปัจจุบันมันกระจายได้เร็วมาก ต้องระวัดระวังในการโฟสต์ให้มาก ซึ่งพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ ที่ดูแลท่านท่านก้ได้กำชับตักเตือนมาแล้ว ท่านได้ขอโทษกลุ่มวัยรุ่นไปแล้ว และมีอะไรที่ท่านแก้ไขได้ท่านจะทำ 

ด้าน พระครูปลัดวิทยา โสภณวัณโน “วิทยา หลวงแอร์ ผิวงาม”ชื่อในเฟสต์ที่เผยแพร่ทางโซเซี่ยลเฟสต์บุคส์ กล่าวว่า พื้นที่บริเวณวัดแห่งนี้เป็นพื้นที่ของบรรพรุษ ที่มีการพัฒนาต่อยอดมาเป็นวัด ทางเราก็พัฒนาวัดมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเป้นวัดที่ญาติโยมเห็นในทุกวันนี้ การที่ตนนำเอาภาพ นางรำของน้อง 6-7 คน ไปโฟสต์ในเฟชบุคส์ของตนเอง เราไม่มีเจตนาไปทำร้ายหรือต่อว่าเขาในเรื่องอะไร ที่เราทำเพราะเป้นการยอกล้อกันเป้นพี่เป็นน้องกัน พอสื่อมันออกไป เราก้ขอโทษเขาไปแต่เมื่อวานแล้วแต่เขาจะว่าอย่างไรก้เป็นสิทธิ์ของเขา เราไม่มีปัญหาอะไร คำพูดนี้ก็ล้อเล่นกัน เหมือนพี่เหมือนน้องหยอกล้อกัน หากมีปัญหาอะไรก้ขออภัยน้องๆไว้ ณ ที่นี้ด้วยแล้วกัน ที่อาจทำให้น้องๆเสียชื่อเสียง ต้องขออภัยด้วย

ส่วนการนัดมารวมตัวกันของสาวประเภทสอง มาที่วัดแห่งนี้ ในเวลา 14.00 น.เมื่อถึงเวลา ก็ไม่มีสาวสองมาแต่อย่างใด มีแต่นายวณัฐพงษ์ เสนาะเสียง กำนันตำบลเฉนียง พร้อมด้วยคณะกรรมการหมู่บ้านเฉนียง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อาสารักษาดินแดนสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมาดูแลความเรียบร้อย และได้เดินทางกลับในเวลา 15.00 น.นอกจากนั้นยังพบว่า มีเพจของปกาสตราว แสวงดี ระข้อความนัดกันไปที่วัดสามัคคีตำบลท่าสว่างในเย็นวันนี้ เพื่อเจรจากับพระครูเจ้าคณะตำบลท่าสว่าง และตำบลเฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อเจรจาหาข้อยุติปัญหากันต่อไป