วันที่ 22 ก.พ.พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.สั่งการให้พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป.พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป.พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป
ร่วมกับตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น และสภ.บ้านแฮด เข้าจับกุม น.ส.สุภาวดี (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 111/2567 ลง 6 ก.พ.67 และนายโชคชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี พร้อมพวกอีก 3 คน  ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และรับของโจร”
ได้ในพื้นที่จ.ขอนแก่น พร้อมของกลาง รถกระบะมิตซูบิชิ และรถจยย.ยี่ห้อต่างๆ ที่ถูกขโมยมาอีก 5 คัน
 
ทั้งนี้เมื่อช่วงปลายปี 2566 ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งจากชาวบ้านหลายราย เพื่อขอให้ช่วยเร่งจับกุมคนร้ายที่ตระเวนลักรถจยย.ไปนับสิบคัน สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง จึงทำการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายเป็นสองผัวเมียพร้อมสมุนตระเวนลักรถจยย.ตามหอพัก,อพาร์ตเมนต์และบ้านพัก ที่ไม่มีกล้องวงจรปิด หรือจอดไว้ในที่ลับตาคน มีรถจยย.ถูกขโมยไปแล้วกว่า 30 คัน
  
ภายหลังเจ้าหน้าที่รับแจ้งพบรถกระบะต้องสงสัยบรรทุกรถจยย.มาด้วย 4 คัน มาจอดไว้ริมแม่น้ำโขงพื้นที่จ.หนองคาย จึงเข้าตรวจสอบ พบผู้ต้องสงสัยเป็นหญิง 1 คน และชายอีก 3 คน อ้างว่าเป็นรถจยย.ของญาติ เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงขอนำรถลงมาตรวจสอบหลักฐาน ระหว่างนั้นผู้ต้องสงสัยฉวยโอกาสวิ่งไปขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไป ส่วนรถจยย.เมื่อสอบแล้วถูกขโมยมาจากพื้นที่สภ.เมืองขอนแก่นทั้งสิ้น

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเจ้าของรถกระบะคือ น.ส.สุภาวดี จึงเข้าจับกุมไว้ได้ทั้งหมดดังกล่าว สอบสวน น.ส.สุภาวดี ให้การรับว่าร่วมกับนายโชคชัยสามีก่อเหตุจริง โดยมีนายทุน จาก สปป.ลาว เป็นผู้สั่งการให้ลักรถจยย.จากฝั่งไทยแล้วขนไปวางไว้ตามจุดนัดหมายต่างๆ ริมน้ำโขง เพื่อรอส่งข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ค่าจ้างคันละ 5,000 บาท จึงส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้ สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีต่อไป