ไล่ล่า "แก๊งหลอกชื้อหมู" ตามหมู่บ้าน เบี้ยวเงินหลบหนี สุดท้ายจนมุมตำรวจ


9 พ.ค. 2562, 11:37

ไล่ล่า "แก๊งหลอกชื้อหมู" ตามหมู่บ้าน เบี้ยวเงินหลบหนี สุดท้ายจนมุมตำรวจ




วันที่ 8 พ.ค. 62 เวลาประมาณ 13.10 น.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากนายอำพร สุขบรรเทิง อายุ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 ม.8 บ.โคกวัด ต.บ้านไทร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ว่าหมูของตนเองจำนวน 4 ตัว ถูกแก๊งค์หลอกซื้อหมูนำขึ้นรถกระบะสีฟ้า ไม่ทราบรุ่น ยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ขับหนีออกไป โดยไม่ยอมจ่ายเงิน โดยภายในรถกระบะดังกล่าวมีหมูอยู่ทั้งหมด 5 ตัว คนร้ายมาด้วยกัน 4 คน เหตุเกิดที่คอกหมู ในสวนของตนเองที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา ใกล้กับชลประทานของหมู่บ้านโคกวัด ต.บ้านไทร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ก่อนที่ศูนย์วิทยุ 19 1 จะประสานงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.ในสังกัดตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ เพื่อทำการสกัดจับ ตามเส้นทางหลบหนี แต่ยังไม่พบตัว

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ จึงลงพื้นที่ไปยังคอกหมูดังกล่าว พบนางป๋อง สุขบรรเทิง อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายอำพร สุขบรรเทิง ผู้เสียหาย และลูกชาย รวมทั้งนายบุญธรรม หอมหวล ผู้ใหญ่บ้านโคกวัด พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา สามีเล่าให้ฟังว่า มีรถกระบะสีฟ้า ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ทำทีมาติดต่อขอซื้อหมู ซึ่งสามีอยู่ที่คอกหมูกลางทุ่งนาคนเดียว ไม่รู้เขาเจรจาซื้อขายกันกิโลกรัมละเท่าไหร่ จากนั้นแก็งค์ดังกล่าวเป็นชาย 5 คน ตกลงชื้อขายหมู กิโลกรัมละ 77 บาท และ ได้จับหมูใส่เข่งเหล็ก จำนวน 4 ตัว ยกหมูซึ่งแต่ละตัว ขึ้นรถปิกอัพ น้ำหนักหมู แต่ละตัว น้ำหนัก ประมาณ 70 กิโลกรัม ราคาตัวละประมาณ 5-6 พันบาท รวม 4 ตัว มูลค่ากว่า 2 หมื่นบาท ขึ้นรถกระบะ ก่อนจะบอกให้สามีของตนขับรถ มอเตอร์ไซค์ ตามไปชั่งน้ำหนักหมูและรับเงินในหมู่บ้าน

จากนั้นแก๊งค์ดังกล่าวก็รีบขับรถกระบะหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านก็เห็นว่ารถคันดังกล่าวทำไมถึงขับออกจากบ้านออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นสามีของตนก็พยายามขับตามแต่ไม่ทัน จึงเดินทางไปยัง สถานีตำรวจภูธรปราสาท เพื่อแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน

ขณะที่ พ.ต.อ.คารมณ์ บุญสด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปราสาท หลังจากได้รับแจ้ง และได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เอกภพ เศรษฐพงษ์ รอง ผกก.สืบสวน ร.ต.อ.วัชรพล พิมพ์จันทร์ หัวหน้าชุดสืบสวน สภ.ปราสาท พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุวัฒน์ พะนงรัมย์ รองหัวหน้าชุดสืบสวนพร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปราสาท ได้ออกติดตาม แก็งค์คนร้าย ตามที่ได้รับแจ้งความไว้ โดยได้สอบถามนายอำพร สุขบรรเทิง อายุ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของหมู ที่ถูกร้ายขโมยเอาหมู ไป 4 ตัว และสอบถามนายบุญธรรม หอมหวล ผู้ใหญ่บ้านโคกวัด และประสานกับผู้ใหญ่บ้านตามหมู่บ้านต่างๆในพื้นที่ อำเภอปราสาท พอจะทราบว่า เส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี เป็นเส้นทางเข้ามาในเขอำเภอเมืองสุรินทร์ และได้ติดตาม มาอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งมาถึงบ้านตามีย์ ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปราสาท ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า รถเห็นปิกอีซูชุแบบแค็ป อัพสีอ่อน บรรทุกหมู ใส่เข่งเหล็กมาจำนวน 4 ตัว เข้ามาในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าไปในหมู่บ้านและตรวจสอบภายในหมู่บ้าน พบรถปิกอัพคันดังกล่าว จอดในหมู่บ้าน ใกล้กับบ้านหลังหนึ่ง ที่กำลังจะจัดงานแต่งงาน ชายในรถจำนวน 5 คน กำลังจะยกเอาหมูลงจากรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัว ขอตรวจสอบ แต่ชาย 1 ใน 5 คน ได้ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนไว้ ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปราสาท ก็ได้ใช้โทรศัพท์ บันทึกภาพกลุ่มคนร้ายทั้ง 5 คน พร้อมรถยนต์ และหมู จำนวน 4 ตัว บนรถ ส่งภาพกลับมาที่ สภ.ปราสาท เพื่อให้นายอำพร สุขบันเทิง เจ้าของหมู ดุภาพว่า เป็นคนร้ายที่ขโมยหมู หรือเปล่า



หลังจากนายนายอำพร สุขบรรเทิง ได้เห็นภาพคนร้ายแล้วยืนยันว่าเป็นแก็งค์คนร้ายกลุ่มเดียวกันกับที่ขโมยหมู ของตนไปเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ควบคุม คนร้ายทั้ง 5 คน พร้อมด้วยของกลาง ทั้งรถยนต์ปิกอีซูชุ แค็ป สีฟ้าอ่อน ทะเบียน บพ 4338 สุรินทร์ หมู่ในเข่งเหล็กจำนวน 4 ตัว นำมาสอบปากคำ และลงบันทึกการจับกุม ที่ สภ.ปราสาท โดยมีนายนายอำพร สุขบันเทิง เจ้าของหมู พร้อมด้วยนายบุญธรรม หอมหวน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้ามาดูคนร้ายทั้ง 5 คน พร้อมด้วยของกลางเป็นหมู 4 ตัว และรถยนต์ คันที่ก่อเหตุ พร้อมยืนยันอีกครั้งว่า เป็นคนร้ายกลุ่มที่ก่อเหตุและหมูทั้ง 4 ตัว เป็นของตนเอง

โดยทราบชื่อคนร้ายทั้ง 5 คน มีนายยอดยิ่ง ไทยพิทักษ์ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 57/2 บ้านตามีย์ ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ เป็นหัวหน้าทีม นายศักดิ์สิทธิ์ เรืองสุขสุด อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 73 หมู่ 3 บ้านตามีย์ ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ นายวิทยา พวงแก้ว อายุ 37 ปี 120/1 หมู่ 9 ต.ปราสาททะนง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ นายธวัช เรืองสุขสุด อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 83 บ้านตามีย์ ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ และนายสุรศักดิ์ พวงแก้ว อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 122 บ้านตามีย์ ต.เฉนียง ซึ่งทั้ง 4 คนเป็น คนในหมู่บ้านเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจปัสสาวะ คนร้ายทั้ง 5 พบปัสสาวะสีม่วง 2 คน นายยอดยิ่ง ไทยพิทักษ์ กับนายสุรศักดิ์ พวงแก้ว และนายวิทยา พวงแก้ว ยังอยู่ในขั้นตอนการควบประพฤติจากการเสพสิ่งเสพติด

นายยอดยิ่ง ไทยพิทักษ์ อายุ 34 ปี ยอมรับว่า เป็นหัวหน้าทีม และเป็นคนขับรถ ตนเองพร้อมด้วยพรรคพวก อีก 4 คน ได้เป็นคนก่อเหตุขโมยหมู ของนายอำพร สุขบรรเทิง จริง โดยได้ช่วยกันจับหมูใส่เข่งเหล็ก แล้วยกขึ้นรถยนต์ แล้วบอกให้นายอำพร เข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อจะเอาไปชั่งตาชั่งในหมู่บ้าน ขณะที่นายอำพร เข้าไปรอในหมู่บ้าน ตนเองได้ขับรถหลบหนีผ่านหมู่บ้านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ได้จ่ายเงินให้นายอำพร แม้แต่บาทเดียว เพื่อเอาหมูมาส่งให้กับชาวบ้านที่กำลังจะจัดงานแต่งงานภายในหมู่บ้านตามีย์ ห่างจากบ้านที่ก่อเหตุ ประมาณ 25-30 กิโลเมตร เมื่อมาถึงหมู่บ้านกำลังจะเอาหมูลงขายให้กับชาวบ้าน แต่ถูก เจ้าหน้าที่แสดงตัวจับกุ่มเสียก่อน


 


จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปราสาท จนทราบแน่ชัดว่าคนร้ายกลุ่มนี้เคยก่อเหตุขโมยหมู ในลักษณะโกงตาชั่ง จ่ายเงินไม่ครบ ในหลายพื้นที่ด้วยกัน ทั้งในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ พื้นที่ อ.ประโคนชัย อ.พลับพลาชัย อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ และมีเครือข่าย กระทำในลักษณะนี้ หลายกลุ่มด้วยกันมีรถยนต์หลายคัน ในการใช่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลติดตามแก็งค์โกงตาชั่ง รับชื้อหมูจากชาวบ้านมาดำเนินคดี หลังจากสอบปากคำเสร็จแล้วได้ส่งผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ให้กับ ร.ต.อ.ทัศนันนท์ อินทร์งาม พนักงานสอบสวน สภ.ปราสาท ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้กลอุบายโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

ด้านนายบุญธรรม หอมหวล ผู้ใหญ่บ้านโคกวัด กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ตนได้ยินมาว่า เมื่อ 2 วันก่อนก็เคยเหตุการณ์แบบนี้ในพื้นที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ พฤติกรรมคล้ายกันแบบเหตุการณ์นี้ แต่เหตุการณ์นั้นแก๊งค์ดังกล่าวจ่ายเงินซื้อหมูอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบขับหนีออกไป พอเจ้าของหมูนับเงินกลับพบว่าเงินไม่ครบ ตามจำนวน และเมื่อ 2 ปี ก่อนญาติของตนก็เคยโดน แต่พฤติกรรมจะทำทีซื้อหมู นำหมูมาชั่งให้เห็นเลย โดยเอาหมู 2 ตัวเข้าเข่งเหล็กเดียวกัน ก่อนชั่ง ซึ่งจริงๆแล้วหมูน้ำหนักตัวละไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม รวม 2 ตัวต้องได้ไม่ต่ำกว่า 200 กิโลกรัม แต่พอชั่งกลับได้แค่ 100 กว่ากิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งแก๊งค์ซื้อหมูมีกุลยุทธ์ในการหลอกซื้อแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะโกงตาชั่งมากกว่า แต่เหตุการณ์ นี้กลับใช้รูปแบบใหม่ที่ไม่เคยทราบมาก่อน ก็อยากฝากเตือนคนที่จะขายหมู ให้ระมัดระวังด้วย

ด้านนายอำพร สุขบรรเทิง กล่าวว่า พฤติกรรมของแก็งค์ดังกล่าวทำทีมาซื้อหมูของตน ซึ่งเลี้ยงไว้ที่กระท่อมท้ายหมู่บ้าน ทั้งหมด 6 ตัว แต่ขอซื้อ 5 ตัว แล้วเอาขึ้นรถยนต์กะบะที่เตรียมมา 4 ตัว ซึ่งกลุ่มดังกล่าวพูดกับตนว่า หาหมูจะไปลงเขียง ตาขายให้ผมใหมสัก 2 ตัว จะให้ราคาเท่าไหร่ ซื้อกลุ่มแก็งค์ดังกล่าวบอกว่าจะให้กิโลกรัมละ 76 บาท ตนเลยบอกไปว่าถ้าเอาทั้งหมดขอราคากิโลกรัมละ 77 บาท จากนั้นกลุ่มแก็งค์ดังกล่าวก็จับหมูเข้ากรงทั้งหมดแล้วนำขึ้นรถกะบะที่เตรียมมา ตนบอกว่าจะต้องนำมาชั่งกิโลที่บ้านภายในหมู่บ้าน แต่ขณะนั้นกลุ่มแก็งค์ดังกล่าวก็ขับรถออกไปอย่างรถเร็ว ซึ่งที่กระท่อมตนก็ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร ตนก็มาคอยอยู่ที่ตาชั่ง แก็งค์ดังกล่าวก็ไม่มาชั่งขนหมูทั้งหมด 4 ตัวหนีหายไปเลย จากนั้นตนก็ขับรถจักรยานยนต์ออกตามแต่รถน้ำมันหมด จึงได้แจ้งทางผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยติดตามพร้อมทั้งแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราสาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามกลุ่มคนร้าย ซึ่งลงมาจากรถยนต์กะบะ 4 คน อายุประมาณ 35- 40 ปี จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาเจอที่เขตเมืองสุรินทร์


 


คำที่เกี่ยวข้อง : #แก๊งค์หลอกชื้อหมู   #เบี้ยวเงิน  









©2018 CK News. All rights reserved.