รถพ่วง 22 ล้อ ชนจยย.ทับร่างหนุ่มใหญ่วัย 46 ดับสลด


18 ม.ค. 2567, 15:54

รถพ่วง 22 ล้อ ชนจยย.ทับร่างหนุ่มใหญ่วัย 46 ดับสลด




 

ที่จังหวัดอุทัยธานี  วันนี้ ( 18 ม.ค. ) เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทัพทัน อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 เกิดอุบัติเหตุรถพ่วงชนกับจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต ที่ถนนทางหลวงหมายเลข 3013 สายทัพทัน – สว่างอารมณ์ ระหว่างกม.ที่ 11 – 12 บริเวณบ้านดงดำ หมูที่ 2 ตำบลทัพทัน อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ โดยมี พ.ต.อ.กนกศักดิ์ สิงห์ทอง ผกก.สภทัพทัน และพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์เวรโรงพยาบาลทัพทัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานี ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70 – 4627 นครสวรรค์ ลูกพ่วงหมายเลขทะเบียน 70 – 3959 นครสวรรค์ บรรทุกน้ำตาลทรายมาเต็มคัน จอดอยู่ข้างทาง เป็นของบริษัท ทองธารา ขนส่งจำกัด มีนายวิวัฒน์ ยศกลาง อายุ 56 ปีคนขับยืนรอให้การ ตรวจสอบรถพ่วงพบรอยเลือดกระจายเต็มล้อรถพ่วงช่วงล้อหลังของลูกพ่วง  ห่างกันประมาณ 200 เมตร พบรถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเทน่า หมายเลขทะเบียน กฉธ 633 ปทุมธานี สภาพพังยับเยิน และพบศพของนาย ประสิทธิ์ สุกสุตร์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 บ้านดงดำ หมู่ที่ 2 ตำบลทัพทัน อำเภอทัพทันจังหวัดอุทัยธานี สภาพศพถูกล้อรถพ่วงทับร่างจนร่างแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี ตับไตใส้พุงออกจากร่างมากองอยู่บนถนน กะโหลกศรีษะแตกกระจัดกระจาย เป็นภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก

จาการสอบถาม นายวิวัฒน์ ยศกลาง คนขับรถพ่วง เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้ไปบรรทุกน้ำตาลทรายจากโรงงานในพื้นที่อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี จำนวน 33 ตัน 150 ก.ก. ( 660 กระสอบ ) บรรทุกมาเต็มคัน กำลังมุ่งหน้าจะไปส่งน้ำตาลทรายในพื้นที่ อำเภอพระป่าแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยใช้ความเร็วประมาณ 60 กม.ต่อชั่วโมง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีรถจักรยายนต์ออกมาจากทางแยกของหมู่บ้านดูลักษณะไม่ได้ระวังรถที่วิ่งมาตามถนนใหญ่ที่ตัดกับทางแยก แต่ห้ามรถไว้ไม่อยู่ชนรถจักรยายนต์เข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว และได้ประสานบริษัทประกันภัยที่ทางบริษัททำไว้เข้ามาตรวจ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วน นายนายวิวัฒน์ ยศกลาง คนขับ พนักงานสอบสอบได้เชิญตัวไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สภ.ทัพทัน และจะได้มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เพื่อดำการทางคดี ต่อไป

และจากการสอบถามนางชวนชม สุกสุตร์ ภรรยา ผู้ตาย บอกว่า วันนี้เป็นพระตัวเองและสามี ( ผู้ตาย ) ได้ไปทำบุณวัดภายในหมู่บ้านห่างจากบ้านประมาณ 1 กม.โดยต่างคนต่างไป และไปร่วมทำบุญตักบาตรที่วัดด้วยกัน หลังจากพิธีสงฆ์เสร็จพิธีแล้ว ก็ต่างคนต่างกลับรถคนละคน จนตัวเอวกับถึงบ้านแล้ว แต่สามียังไม่กลับ และได้รับโทรศัพท์ครั้งแรกจากสามีว่านำมันรถจักรยายนต์หมดให้ไปซื้อน้ำมันไปเติมให้ด้วย และได้ไปซื้อน้ำมันและขี่รถจักรยานยนต์เอาน้ำมันไปส่งให้หลังจากนั้นก็แยกกันตนเองกลับถึงบ้านก่อน แต่สามีก็ยังกลับมาไม่ จนได้ได้โทรศัพท์อีกครั้งจากเพื่อนบ้านว่าสามีถูกรถเหยียบเสียชีวิต จึงออกจากบ้านมาดูที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นศพของสามีอยู่ในสภาพศพแหลกเหลวจนดูไมออกว่าเป็นใครถึงกับเป็นลมล้มพับ เพื่อบ้านต้องเอายาดมมาให้ดมพร้อมกับช่วยกันปลอบใจ














©2018 CK News. All rights reserved.