จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อออนไลน์ ว่ามีคุณยายเป็นผู้พิการ ไม่มีน้ำกิน ไม่มีเสื้อผ้าใส่ ไรคนดูแล ฯลฯ ล่าสุด วันที่ 10 มกราคม 2567   นายสันติ โอฆะพนม นายอำเภอสังขะ นางสงกรานต์ โอฆะพนม ประธานแม่บ้านมหาดไทยอำเภอสังขะ นายเอกลักษณ์ ศาลางาม ผอ.รพ.สต.สะกาด นายณรงค์ เปรียบนาน พัฒนาการอำเภอสังขะ นายศุภสรณ์ ชัยนนท์ ผญบ. และ อสม. ได้ลงพื้นที่เยี่ยม นางเริด วันไชย อายุ 78 ปี (สามีเสียชีวิต) อยู่บ้านเลขที่ 222 ม.12 บ้านตาโมมพัฒนา ต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์  เป็นผู้พิการทางสายตา  อาศัยอยู่ในบ้านไม้ยกพื้นสูง เนื้อที่ประมาณเกือบ 2 งาน  อาศัยอยู่กับลูกชาย คนที่ 2  ซึ่งลูกชายคนนี้ไม่มีครอบครัว  นางเริดมีลูกทั้งหมด 4 คนไปทำมาหากินประกอบอาชีพรับจ้างที่จังหวัดชลบุรี นานๆ จะกลับมามาเยี่ยมสักครั้ง   

จากการสอบถามข้อมูลได้ทราบว่า นางเริด วันไชย มีปัญหาเรื่องกลืนกินอาหารยากลำบาก บางครั้งจะนอนรับประทานอาหาร ส่วนปัญหาเรื่องสุขภาพคือการเคลื่อนไหวลำบาก เดินไม่ได้  ด้านความเป็นอยู่คือไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากไม่ค่อยมีรายได้จึงไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ  ปัจจุบันได้ใช้ไฟส่องสว่างจากไฟโซล่าเซลล์  ส่วนเรื่องทางเข้า-ออกบ้านนั้น ปัจจุบันไม่มีทางเข้าบ้าน เนื่องจากทางเดิมที่ข้างบ้านได้ขายที่แล้วล้อมรั้วคอนกรีต จึงอาศัยบ้านข้างเคียงอีกหลังเพื่อเป็นทางเข้า-ออก  ในเรื่องการดูแลคุณยายเริด ทางอบต.ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่และ อสม. ได้เข้ามาดูแลเป็นประจำ 

นายลา ไกรลับ ซึ่งเป็นน้องชายของคุณยายเริด เป็นอดีต สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้เข้ามาดูแลพี่สาวเป็นประจำ ไม่ได้ทอดทิ้งอย่างที่เป็นข่าว ส่วนสภาพความเป็นอยู่ ก็อยู่อย่างชาวบ้านทั่วๆไป เพราะมีฐานะยากจน แต่ก็พอมีกินมีใช้เป็นปกติสุขดี

ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อโซเชี่ยลว่าไม่มีน้ำกิน ไม่มีเสื้อผ้าใส่ นั้น คุณยายเริด บอกว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตนเองมีเสื้อผ้าใส่และมีน้ำกิน แต่ในวันที่มีคนเอาสิ่งของมามอบให้ วันนั้นอากาศมันร้อน ตนได้นอนถอดเสื้ออยู่ ซึ่งตนก็นอนอยู่แบบนี้เป็นประจำ ส่วนเรื่องน้ำกินที่ลงในข่าวนั้นไม่ใช่น้ำที่เอาไว้สำหรับดื่มกิน  แต่เป็นน้ำที่เอาไว้ใช้ตามปกติ

นายประวิค ชงโค อายุ 30 ปี ลูกชายที่อยู่กับนางเริดและคอยดูแลมาตลอด กล่าวว่า วันที่มีคนเอาสิ่งของมามอบให้แม่และถ่ายรูปไปลงสื่อโซเชียล  ตนได้ไปผ่าตัดหลอดลมและนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุรินทร์ พอกลับมาจากโรงพยาบาลจึงได้รับทราบว่าแม่ของตนกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่ว  ตนในฐานะลูกชายที่อยู่กับแม่มาตลอด ขอยืนยันว่า ได้รับการช่วยเหลือจาก อบต. รพ.สต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และมี อสม.เข้ามาดูแลสอบถามความเป็นอยู่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่ตนไม่อยากรบกวนใคร  ส่วนเรื่องไฟฟ้านั้น ตนไม่ได้มีงานประจำทำ ไม่มีรายได้มากพอ และไม่ได้มีความจำเป็นอะไรมากมาย จึงไม่ได้ใช้ไฟฟ้า ปัจจุบันใช้ไฟโซลาร์เซลล์ก็เพียงพอต่อการดำรงชีพ ไม่ถือว่าเดือดร้อนอะไร
ตนอยากขอร้องคนที่มาถ่ายรูปและเอาไปลงสื่อโซเชี่ยลว่า น่าจะบอกกล่าวและพูดคุยกับครอบครัวของตนก่อน แม้ตนจะยากจน แต่ก็ทำมาหากินและดูแลแม่มาตลอด ตนและครอบครัวไม่อยากเป็นข่าว ไม่อยากดังแบบนี้  ส่วนเรื่องที่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ได้ลงมาช่วยเหลือก็ต้องขอบคุณเป็นอย่างมาก แต่ที่ผ่านมานั้นครอบครัวก็ได้รับการช่วยเหลือมาโดยตลอด  

ส่วนเรื่ิองที่มีบุคคลไปเปิดขอรับบริจาคเงิน หรือสิ่งของต่างๆนั้น ตนและแม่ขอยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง และที่ผ่านมานั้นก็ไม่เคยขอรับบริจาคเงินจากใคร ส่วนใครที่มีจิตเมตตาอยากจะช่วยเหลือตนกับแม่ ก็ขอน้อมรับด้วยความขอบคุณแต่ขอยืนยันว่าตนไม่ได้เปิดรับบริจาคแต่อย่างใด