เวลา 06.30 น. วันที่ 7 ม.ค. 2567 เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก ชนสะพานลอยข้ามถนน บริเวณถนนสายเอเชีย ช่วง กม.ที่ 55-56 ต.ตลาดกรวด อ.เมือง จ.อ่างทอง จนทำให้สะพานพังถล่มลงมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัย ได้รีบเดินทางเข้ามาตรวจสอบ พร้อมกับทำการปิดช่องทางการจราจรทุกช่องทาง หลังจากที่สะพานลอย ถูกรถบรรทุกพ่วง หมายเลขทะบียน 71-2093 นครสวรรค์ พุ่งชนอย่างแรง จนทำให้ตัวสะพานลอย พังถล่มลงมาทับรถเทรลเลอร์คันดังกล่าว จนพังเสียหายทั้งคัน ที่เกิดเหตุพบตัวคานสะพานลอย ที่พังถล่มลงมาปิดเส้นทางการจราจร (ขาขึ้น) ภาคเหนือทุกช่องทาง ทำให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ จนทำให้รถติดสะสมยาวกว่า 10 กม.
นายอดิเรก ชิ่นผล อายุ 55 ปีคนขับรถเทรลเลอร์ เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองขับรถบรรทุกยิบซั่มออกมาจาก อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เพื่อที่จะมาส่งให้กับลุกค้าที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเมื่อขนถ่ายสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้ตีรถบรรทุกพ่วง เพื่อเดินทางกลับ ระหว่างที่ขับรถมาถึงบริเวณใต้สะพานลอยดังกล่าว ตนเองได้ยินรถบรรทุก ที่ตนเองขับมา ชนเข้ากับสะพานลอย จนทำให้เกิดเสียงดังสนั่น จนทำให้รถเกิเดเสียหลัก และเทรลเลอร์ด้านท้ายได้หลุดออกไป
หลังเกิดเหตุ ตนเองตกดใจมาก จึงรีบลงมาดู ก็พบว่า ลูกเทรลเลอร์ ถูกสะพานลอยทับ จนพังได้รับความเสียหาย แต่เคราะห์ดีที่ระหว่างเกิดเหตุตนเองไม่ถูกสะพานทับไปด้วย ซึ่งขณะที่ตัวสะพานพังถล่มลงมา ส่วนหัวรถบรรทุกที่ตนเองนั่งขับอยู่ ได้วิ่งพ้นตัวสะพานออกไปแล้ว จึงทำให้รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้ทำการจัดการจราจร พร้อมกับเร่งระบายรถ โดยทำการเบี่ยงรถที่จะเดินทางขึ้นภาคเหนือ ให้ไปใช้เส้นทางสายคันคลองชลประทาน "อ่างทอง-ไชโย" แทน เนื่องจากการจราจรติดขัดนับ 10 กิโลเมตร โดยให้รถที่จะวิ่งผ่าน ไปเลี้ยวเข้าตั้งแต่ช่วงลงสะพานบางแก้ว ต.บ่านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง ก่อนที่จะไปออกสายเอเชียอีกครั้ง ที่บริเวณแยกมหานาม อ.ไชโย จ.อ่างทอง นอกจากนี้ ยังได้เตรียมประสานแขวงทางหลวงอ่างทอง ในการที่จะดำเนินการย้ายซากคานสะพานลอย ที่เสียหายออกจากเส้นทาง โดยคาดว่าน่าจะใช้เวลาในการกู้ซากสะพานลอย นานกว่า 6-7 ชั่วโมง เนื่องจากตัวคานสะพานลอยนั้น มีน้ำหนักมาก ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนที่จะเดินทางขึ้นภาคเหนือ โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว และให้ไปใช้ทางเลี่ยงที่ได้แนะนำไว้แทน
©2018 CK News. All rights reserved.