ปอศ. รวบ 2 แม่ลูก เปิดเฟซบุ๊กตุ๋นกลุ่มนักธุรกิจร่วมลงทุนส่งออกยางพารา  สูญเงินกว่า 130 ล้านบาท


20 ธ.ค. 2566, 10:52

ปอศ. รวบ 2 แม่ลูก เปิดเฟซบุ๊กตุ๋นกลุ่มนักธุรกิจร่วมลงทุนส่งออกยางพารา  สูญเงินกว่า 130 ล้านบาท




วันที่ 20 ธันวาคม 2566 พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ. พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย , พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.4 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุม นางชญาภา จันทร์ศรี อายุ 55 ปี และ น.ส.พิมพ์นารา จันทร์ศรี อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญา “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันทุจริตหรือหลอกลวงโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ” ได้ที่บริเวณหน้าบ้านพักในพื้นที่ อ.ระโนด จ.สงขลา

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2566 ผู้เสียหาย จำนวน 16 คน ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ประมาณเดือนธันวาคม 2562 ได้มีผู้ต้องหา ซึ่งใช้เฟซบุ๊กชื่อ “พิมพ์นารา จันทร์ศรี” มีผู้ติดตามกว่า 14,000 คน ทำการโพสต์ข้อความชักชวนร่วมลงทุน  ส่งออกยางพารา โดยอ้างว่าได้รับสัมปทานจากการยางแห่งประเทศไทย มีการประกอบธุรกิจในนามบริษัท พาราไทย ส่งออก จำกัด โดยมีการโพสข้อความและรูปภาพการทำธุรกิจต่างๆ อาทิเช่น การเข้าร่วมประชุมงานทั้งกับหน่วยงานราชการและภาคเอกชน การลงพื้นที่ทำงาน แสดงศักยภาพในการทำธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โพสรูปหนังสือคำสั่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องแต่งตั้งผู้ต้องหาเป็นที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ และอื่นๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมาโดยตลอด กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อการเชิญชวนของผู้ต้องหา จึงได้โอนเงินไปร่วมลงทุนกับผู้ต้องหา จนเมื่อเดือนกันยายน 2566 ผู้ต้องหาไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนและเงินลงทุนคืนให้แก่ผู้เสียหายได้ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายรวมเป็นเงิน 130,737,974.32  บาท

จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทราบว่า ผู้ต้องหาในคดีนี้ คือ นางสาวพิมพ์นารา และนางชญาภา  ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นแม่ลูกกัน ได้ร่วมกันจัดตั้ง บริษัท พาราไทย ส่งออก จำกัด ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการขายส่งยางพาราและพลาสติก ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บริษัทไม่มีการประกอบกิจการจริงแต่อย่างใด อีกทั้งไม่เคยได้รับสัมปทานใดจากการยางแห่งประเทศไทย ผู้ต้องหาสร้างความน่าเชื่อถือโดยการโฆษณาชวนเชื่อผ่านทางสื่อโซเชียลออนไลน์ มีการชักชวนให้มาร่วมลงทุนในธุรกิจขายส่งยางพาราเสนอผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 60- 80 ต่อปี และโครงการจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (Wood Pellet) เสนอผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 20.74 ในระยะเวลา 19 วัน ซึ่งเป็นการเสนอให้ผลตอบแทนเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 

และจากการตรวจสอบเส้นทางเงินของผู้ต้องหา ทราบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์นำเงินที่ได้จากผู้เสียหายมาหมุนเวียนจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เสียหายรายอื่นๆ และนำไปใช้จ่ายส่วนตัวโดยมิได้นำมาประกอบธุรกิจจริงแต่อย่างใด ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ได้รวบรวมพยานหลักฐาน

ขออนุมัติต่อศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองราย นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





คำที่เกี่ยวข้อง : #ปอศ  









©2018 CK News. All rights reserved.