ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการ และด๊อกเตอร์สุวิทย์ เมษิณทรีย์รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่จังหวัดสงขลา รับฟังปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำน้ำมันตกต่ำ จากว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และผู้ประกอบการลานเทปาล์ม ในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เร่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบฯ และแคนดิเดทนายก เร่งแก้ไข

 

เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อรวบรวมปัญหาเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข ปัญหาให้ทันต่อความเดือดร้อนของเกษตกร โดยระยะสั้น รัฐจะต้องดึงสต๊อก ในโรงกลั่นออกไปอย่างน้อย 1-3 แสนตัน ไปผลิตกระแสไฟฟ้า ควบคู่กับการยกระดับราคา ทั้งนี้เลขาธิการพรรคฯ มองว่า หากสต๊อกสามารถดึงออกจากโรงกลั่นได้เดือนละ 1 แสนตัน โรงสกัดก็จะรับซื้อผลผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ตนเองมองว่า หากได้ราคาชี้นำที่ 17 บาท ของ CPO (ปาล์มที่สกัดเป็นน้ำมันแล้ว) ก็จะทำให้ราคาผลผลิตจาก 1.60 บาท ขยับขึ้นไปอย่างน้อย 2.50 บาท 

 

อย่างไรก็ตามเลขาธิการพรรค มองว่า การแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร ต้องทำทีละขึ้นตอน วันนี้เป็นเรื่องปัญหาเฉพาะหน้า จากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทำอย่างไรให้เกษตรกรอยู่ได้ และให้ต้นทุนต่ำลง หากพรรคฯ ได้เข้าไปจัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่าจะสามารถผลักดันแผนระยะกลางและระยะยาวต่อไป

 

ด้านนายเลิศกิจ ชีวกสุลรุ่งเรือง เจ้าของลานปาล์ม โก พี ในอำเภอสะเดา มองว่า หารัฐสามารถดึงสต๊อกออกจากโรงกลั่นได้ โดยวิธีการใดก็ตามราคาก็จะปรับตัวสุงขึ้น เกษตรกรก็จะมีรายได้สูงขึ้น ลดผลกระทบกับลานฯ โดยเฉพาะค่าตัด ค่าขนส่ง หากราคายังคงอยู่ที่ 1.60-1.80 บาท ปัญหาก็ไม่มีวันจบ ส่วนปัญหาการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าของลานปาล์มมองว่า ช่วงนี้นำเข้ามาก็ขาดทุนเห็นๆ และยังทำลายตลาดน้ำมันปาล์ม เกษตรกรขายผลผลิตไม่ได้ปัญหาก็จะวนกลับมาหาภาครัฐ