“มท.1” นำกำลัง กรมการปกครอง ทลายผับอัพยา ย่านลาดพร้าว นักเที่ยวฉี่สีม่วงถึง 122 ราย


10 ธ.ค. 2566, 13:49

“มท.1” นำกำลัง กรมการปกครอง ทลายผับอัพยา ย่านลาดพร้าว นักเที่ยวฉี่สีม่วงถึง 122 ราย




เวลา 02.20 น.วันที่ 10 ธ.ค. 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธุรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง สนธิกำลังร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. กทม. พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน 30 นาย และตำรวจนครบาลโชคชัย บูรณาการเข้าจับกุมสถานบันเทิง Sonic ไม่มีใบอนุญาต บริเวณถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว พบนักเที่ยวมั่วสุมเสพยาเสพติดนับร้อย แหล่งปล่อยของเอเยนต์รายใหญ่ ย่านเลียบด่วน รามอินทรา

นายอนุทิน กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้ พบนักท่องเที่ยว 220 คน แบ่งเป็นชาย 100 คน และหญิง 120 คน พบว่าสถานประกอบการดังกล่าว ใบอนุญาตประกอบการหมดอายุตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 แต่ยังคงลักลอบเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดมาจนถึงปัจจุบัน จากการตรวจค้นภายในร้านยังพบยาเสพติดหลายประเภท เช่น ยาบ้า ยาอี ไอซ์ เคตามีน Happy water เป็นต้น และยังพบอีกว่า ภายในร้านได้มีการจัดพื้นที่ให้ผู้ใช้บริการเข้าไปเสพยาเสพติด โดยห้องดังกล่าวจะเป็นห้องแยกอยู่ในห้องน้ำ
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนตัวเลขผู้ติดยาเสพติดนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง เบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ปิดสถานประกอบเป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่งของ คสช.ที่ 22/2558 โดยหลังจากนี้จะมอบอำนาจให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลจัดการในเรื่องการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป รวมทั้งจะดำเนินการขยายผลไปหาเจ้าของสถานประกอบการที่แท้จริง

นายอนุทิน ยืนยันว่า การบุกจับกุมครั้งนี้เป็นการตอบรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. เพื่อให้ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ คำนึงไว้อยู่เสมอว่าจำเป็นต้องมีใบอนุญาตประกอบการ และปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ด้านนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การจู่โจมตรวจค้นในวันนี้พบว่าสถานบันเทิง Sonic กระทำการท้าทายกฎหมาย ทั้งการเปิดโดยไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ขายเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์เกินเวลา ปล่อยปละละเลย ให้มีการนำยาเสพติดเข้ามากระจายและเสพภายในร้าน รวมทั้งเปิดถึงเกือบถึงรุ่งเช้า ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดแจ้ง โดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง จะออกคำสั่งคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ มีกำหนด 5 ปี ตามคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ต่อไป

สำหรับปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมผับในย่านเลียบด่วน รามอินทรา ครั้งนี้ สืบเนื่องจากการสืบสวนข้อมูลสถานประกอบการและสถานบันเทิงผิดกฎหมายทั่วทั้งกรุงเทพ  และต่างจังหวัด ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคม ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยปฏิบัติการในครั้งนี้ อาศัยช่วงวันหยุดยาว สแกนเป้าหมายเพื่อจัดระเบียบสถานบันเทิง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ปลอดจากยาเสพติด ซึ่งสายลับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดอีกครั้ง ในคืนวันที่ 9 ธ.ค. 2566 ต่อเนื่องคืนวันที่ 10 ธ.ค. 2566

เมื่อพบว่าสถานประกอบการ Sonic มีการกระทำผิดจริง จึงได้แจ้งไปยังชุดจับกุม ในเวลา 02.05 น. วันที่ 10 ธ.ค. 2566 จึงเปิดปฏิบัติการจู่โจมจับกุมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายทันที เมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับ มีผู้ที่คาดว่าเป็นเอเย่นต์ยาเสพติดได้วิ่งกรูออกมาจากร้าน พยายามพุ่งชนเจ้าหน้าที่ จนเกิดการต่อสู้และจับกุมได้จำนวน 3 คน พบในตัวยาเสพติดหลายชนิด คาดว่านำไว้จำหน่าย นอกจากนี้ ภายในร้านมีนักเที่ยวจำนวนกว่า 200 คน ซึ่งกำลังเมามันส์ต่างแตกฮือ โยนยาเสพติดทิ้งลงพื้นเกลื่อน และพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้าน แต่ชุดจับกุมได้ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ พนักงานฝ่ายปกครองได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ

จากการเข้าตรวจสอบ Sonic พบว่าเป็นสถานประกอบการที่เปิดทำการค้าให้ลักษณะสถานบริการ มีการค้าขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการแสดงดนตรี และให้นักเที่ยว ดื่มกิน เต้นรำ อย่างสนุกสนาน แต่จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการแต่อย่างใด  และที่สำคัญ คือ สถานบริการแห่งนี้มีการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในร้าน ซึ่งตรวจสอบพบยาเสพติดตกกระจายเกลื่อนพื้น หลายชนิด ทั้งยาอี ยาเค ยาบ้า และยาแฮปปี้วอเตอร์ ซึ่งเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดในสถานบันเทิง โดยพบนักเที่ยวจำนวน 214 คน เป็นผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 1 คน พบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 7 คน

จากการนำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกายในเบื้องต้น เจ้าพนักงานปปส. ได้พบมีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง จำนวน 122 คน แยกเป็นชาย 76 คน เป็นหญิง 46 คน ซึ่งหากผู้เสพที่สมัครใจเข้ารับการบำบัด ก็จะให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู หากไม่ยอมเข้ารับการบำบัด ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป





คำที่เกี่ยวข้อง : #กรมการปกครอง  









©2018 CK News. All rights reserved.