"บิ๊กหลวง" เปิดปฏิบัติการ “1386” ปราบผู้ค้า นำผู้เสพเข้ากระบวนการบำบัด


14 พ.ย. 2566, 13:51

"บิ๊กหลวง" เปิดปฏิบัติการ “1386” ปราบผู้ค้า นำผู้เสพเข้ากระบวนการบำบัด




วันที่ 14 พ.ย. 2566 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดปฏิบัติการ 1386 "สยบผู้ค้า นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด" จำนวน 5 เป้าหมายในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยนายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และนางกาญจนา วรรณะพาหุณ หัวหน้ากลุ่มงานสุขภาพจิตและยาเสพติด สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ

สำนักงาน ป.ป.ส. สนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจ ฝ่ายปกครองในพื้นที่ และสาธารณสุข ดำเนินการต่อข้อร้องเรียนประชาชนผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ภายใต้ปฏิบัติการ 1386 "สยบผู้ค้า นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด" จำนวน 5 เป้าหมายในพื้นที่ อ.พระปะแดง และ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สามารถนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด 2 ราย โดยหลังการจับกุมผู้เสพ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ได้เข้าพูดคุย กับผู้เสพ ที่ไม่มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติด เพื่อให้กำลังใจในการเข้ารับการบำบัดรักษา โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขช่วยดูแลนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหายาเสพติดโดยมีมาตรการเร่งด่วนในการนำผู้เสพยาเสพติดจำนวนกว่า 32,000 ราย เข้ารับการบำบัด โดยใน 32,000 ราย มีจำนวนกว่า 7000 ราย ที่เป็นผู้ป่วยจิตเวชซึ่งต้องนำเข้าสถานพยาบาลก่อน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับชุมชน ในขณะที่อีกกว่า 25,000 ราย ที่ยังสามารถใช้ชีวิตในชุมชนได้เช่นรายนี้ต้องรับการประเมินโดยแพทย์เพื่อเข้ารับการบำบัดอย่างเหมาะสม และต้องดำเนินการภายใน 100 วัน

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นการดำเนินการต่อข้อร้องเรียนจากประชาชน ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ถึงความเดือดร้อนจากปัญหายาเสพติด ซึ่งเราได้ดำเนินการปราบปรามกลุ่มนักค้ายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน และในส่วนของผู้เสพที่ไม่มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดหากยินยอมจะนำเข้ากระบวนการบำบัดรักษา และจะมีปฏิบัติการเช่นนี้ในทั่วประเทศ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ชุมชน “ตนยืนยันว่าในปัจจุบัน หมดยุคข้าราชการนั่งแต่ห้องแอร์แล้ว ต้องลุกขึ้นมาช่วยชุมชน
และที่สำคัญชุมชนก็ต้องลุกขึ้นมาสู้กับยาเสพติด” พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าว

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า ชุมชนที่เข้มแข็ง เป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการจับกุมในครั้งนี้ข้อมูลพฤติการณ์ผู้ค้าผู้เสพส่วนหนึ่งได้จากพี่น้องประชาชนก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำไปสืบสวนขยายผลต่อ ซึ่งต้องขอบคุณผู้ร่วมแจ้งเบาะแสช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ การช่วยเหลือจากชุมชนอย่างการร่วมเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวัง จะเป็นเครื่องมืออย่างดีในการช่วยป้องกันไม่ให้เกิดผู้ค้าผู้เสพรายใหม่ในชุมชน นอกจากนี้ในการดำเนินการตามแนวทางเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย แรงสนับสนุน กำลังใจ การให้โอกาส จากครอบครัว ชุมชน ต่อผู้เสพ ล้วนสำคัญต่อการเลิกยาเสพติดได้ ไม่เกิดการเสพซ้ำ ทั้งนี้หากต้องการแจ้งเบาะแสยาเสพติดสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง ปลอดภัย และไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลผู้แจ้ง

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ยังได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึง การเตรียมให้เปิดผับบาร์ถึงตี 4 ในบางพื้นที่มีมาตรการในการควบคุมยาเสพติดอย่างไรว่า ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมา หากสถานประกอบการฝ่าฝืนกฎข้อบังคับ หรือปล่อยปะละเลย ให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการของตนเอง เช่นปล่อยให้มีการมั่วสุม ครอบครอง ซื้อขายยาเสพติด ตน ในฐานะ เลขาธิการ ป.ป.ส. จะทำบันทึกถึงนายกรัฐมนตรี และใช้อำนาจเลขาธิการ ป.ป.ส. พิจารณาสั่งพักใช้ใบอนุญาต หรือสั่งปิดสถานบริการชั่วคราว 30 วันโดยหากพบเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกลงโทษเช่นกันไม่มีการละเว้น





คำที่เกี่ยวข้อง : #ปปส.  









©2018 CK News. All rights reserved.