เช้าวันนี้ที่เขื่อนขุนด่านปราการชล บริเวณสันเขื่อนถูกจัดเป็นเป็นที่ประกอบพิธีสงฆ์ มีพระสงฆ์10รูปมาสวดให้พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก จุดเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมราชบพิตร จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก  ข้าราชการ และประชาชนที่มาร่วมพิธีใส่บาตรพระสงฆ์   จากนั้นได้ไปยังอาคารศูนย์เรียนรู้เขื่อนขุนด่านปราการชล หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ/ ภาคเอกชน และภาคประชาชนวางพวงมาลาเบื้อหน้าพระบรมฉายาลักษ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมราชบพิตร

 ขณะที่บรรยากาศด้านหน้า ทางเขื่นอขุนด่านปราการชล ได้ปล่อยน้ำล้นออกมาจากสปิงคเวย์ ซึ่งเป็นภาพที่1ปีจะมีช่วงเวลาปลายฤดูฝน หลังจากที่เขื่อนได้กักเก็บน้ำตลอดตั้งแต่ช่วงฤดูฝนเป็นระยเวลาหลายเดือน จนปริมาณน้ำถึงระดับเหนือสปิงเวย์จึงสามารถที่จะปล่อยน้ำออกได้ เพื่อเป็นการระบายน้ำที่เกินปริมาณกักเก็บออกมา ทำให้เป็นภาพม่านน้ำขนาดใหญ่ไหลตกลงมากระทบด้านล่าง กลายเป็นละลองน้ำสวยงาม อีกทั้งโดนกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องทำให้เกิดรุ้งกินน้ำ ให้นักท่องได้ได้ชมและถ่ายภาพเก็บบรรยากาศความประทับใจจากเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชขดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมราชบพิตร ในหลวงในรัชกาลที่ 9 ก่อนที่พระองค์สวรรคคต  

เขื่อนขุนด่านปราการชล เป็น เขื่อนคอนกรีตอัดบดยาวที่สุดในโลก มีความยาวรวม 2,720 เมตร ความความสูงจุดสูงสุด 93 เมตร ความจุน้ำมากถึง 224 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็นเขื่อนซึ่งรองรับน้ำมาจากด้านบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทางน้ำตกเหวนรก ก่อนเก็บกักและผันระบายลงสู่แม่น้ำนครนายก โดยอดีตก่อนจะสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ มีเขื่อนขนาดเล็กเรียกว่าเขื่อนคลองท่า

เพราะเขาเขียนไว้ตัวเบ้อเร่อเชียยวนะว่าเป็นเขื่อนคอนกรีตอัดบดยาวที่สุดในโลก มีความยาวรวม 2,720 เมตร ความความสูงจุดสูงสุด 93 เมตร ความจุน้ำมากถึง 224 ล้านลูกบาศก์เมตร