วันที่ 10 ต.ค. 2566 ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย

รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายหน่ายหน่าย (นามสมมติ) อายุ 34 ปี สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการเมียนมา ในความผิดฐานค้ายาเสพติด และมีพฤติการณ์เป็นคนร้ายสำคัญที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเครือข่ายการค้ายาเสพติดขนาดใหญ่ ที่กระทำความผิดบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา โดยหลบหนีการจับกุมเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมียนมา ขอความร่วมมือผ่านมายังผู้ช่วยทูตตำรวจ ประจำย่างกุ้ง  

จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบสารสนเทศ ตม. พบว่านายหน่ายหน่าย เดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงได้อนุมัติให้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับมีพฤติการณ์ที่สมควรเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร  และสั่งการให้ กก.1 บก.สส.สตม. เร่งสืบสวนติดตามหาตัวนายหน่ายหน่าย เพื่อดำเนินการผลักดันส่งกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศเมียน

จากการสืบสวนพบว่านายหน่ายหน่าย พักอาศัยอยู่กับเพื่อนในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จึงได้ให้กำลังไปเฝ้าสืบสวนติดตามหาตัว จนกระทั่งได้พบนายหน่ายหน่าย จึงได้แจ้งหนังสือแจ้งการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้
นายหน่ายหน่ายรับทราบ และควบคุมตัวนำส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป