วันที่ 27 ก.ย.66 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมหน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ 2 จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ นายสุทธิโรจน์ เจริญธนะศักดิ์ นายอำเภอกาบเชิง เป็นประธานประชุมแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนกรณีรถยนต์ส่วนบุคคลของประเทศกัมพูชา เข้ามารับจ้างขนส่งคนโดยสารในเขต จ.สุรินทร์ หลังที่มีผู้โพสต์คลิป ระบุว่า”รถแท็กซี่กัมพูชาข้ามแดนมารับจ้างฝั่งไทย” จนเป็นกระแสทางโลกโซเชี่ยล ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
โดยมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้ง 2 ประเทศ ทั้งไทยและกัมพูชา ประกอบด้วย นายสหชาติ คำพูน ขนส่ง จ.สุรินทร์,ตัวแทน จนท.จากด่านศุลกากรช่องจอม,จนท.ตรวจคนเข้าเมือง จ.สุรินทร์,ตำรวจ สภ.กาบเชิง,จนท.หน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ 2 ,หน่วยงานทหารในพื้นที่,สมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ตัวแทนฝั่งประเทศกัมพูชา ประกอบด้วย นายแอม ปัญญาริด ประธานช่องโอรเสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย,รอง ตม.ช่องโอรเสม็ด,รอง ศุลกากรช่องโอรเสม็ด และรอง หน.หน่วยประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย ร่วมประชุมพิจารณาหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น อันอาจทำให้เกิดการกระทบกระทั่ง จนอาจเกิดความรุนแรงต่อประชาชนที่เดินทางของทั้งสองประเทศ จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของ จ.สุรินทร์ กระทบต่อเศรษฐกิจและความสัมพันธ์อันดีของประเทศไทยกับกัมพูชา
การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากบริษัทตั้งใจมานะ ขนส่ง จำกัด ผู้ประกอบการขนส่งประจำทางด้วยรถโดยสาร หมวด 4 จังหวัดสุรินทร์ สายที่ 1485 สุรินทร์-ช่องจอม ได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ 10 ก.ค.2566 แจ้งเรื่องร้องเรียนให้ขนส่งจังหวัดสุรินทร์ทราบว่า ปัจจุบันมีรถยนต์ส่วนบุคคลของประเทศกัมพูชาข้ามมาฝั่งประเทศไทยผ่านด่านพรมแดนช่องจอม และรับจ้างเหมาขนส่งคนโดยสารชาวกัมพูชาเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อรถโดยสารประจำทางสายสุรินทร์-ช่องจอม ให้ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชาเดินทางข้ามพรมแดนเพื่อเดินทางไปพบแพทย์และซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้า ต่างๆ ประกอบกับมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (TIK TOK) ปรากฏคลิปวีดีโอการรับผู้โดยสารบริเวณหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีการพาดพิงถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้เกดความเสียหายและกระทบต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงานโดยรวม
ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสุรินทร์ ได้ทำเคยหนังสือประกาศแจ้งเตือนและขอความร่วมมือไปยังฝั่งประเทศกัมพูชาไปแล้วก่อนหน้านี้ ถึงการขอความร่วมมือไม่ให้ชาวกัมพูชานำรถยนต์ส่วนตัวมารับจ้างโดยสารในฝั่งไทย เนื่องจากผิดกฎหมาย ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงแอบลักลอบรับจ้างอยู่ ทำให้มีการถ่ายคลิปดังกล่าวลงโลกโซเชี่ยล ก่อนจะมีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
นายสหชาติ คำพูน ขนส่ง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า การประชุมแก้ปัญหาและพูดคุยกันในวันนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางฝั่งโอรเสม็ด กัมพูชา ก็จะไปพูดคุยให้ชาวกัมพูชาที่นำรถเข้ามารับจ้างฝั่งไทย ได้ ละเลิก และหยุดพฤติกรรมนั้นโดยสิ้นเชิง ซึ่งได้กำหนดการประชุมคราวหน้า ช่วงปลายเดือนตุลาคม ผลการประชุมในครั้งก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของด่านช่องจอม การเดินทางค้าขายและความสัมพันธ์อันดีของพี่น้องไทย-กัมพูชานั้นยังคงอยู่ ก็จะพยายามไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งรุนแรง ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา ที่ทำให้เกิดการพูดคุยกันในวันนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การพูดคุยกันในครั้งนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาอย่างราบรื่น นอกจากนี้ทางกัมพูชาก็ยังฝากเรื่องของรถบรรทุก 10 ล้อและบรรทุกพ่วงของไทย ที่ไปวิ่งรับส่งสินค้าที่ฝั่งกัมพูชา ใช้ความเร็วมาก ทำให้ที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุทำให้ชาวกัมพูชาเสียชีวิตมาแล้ว 3 ราย ซึ่งขนส่ง จ.สุรินทร์ ได้รับปากว่าจะจัด จนท.มาประชาสัมพันธ์ ให้ถี่ขึ้น และจะดูว่าการเดินทาง เราประชาสัมพันธ์ครบหรือยัง พร้อมได้เสนอแนะไปว่า การที่จะทำให้เกิดความสะดวกและปลอดภัย ทางกัมพูชาก็ต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย เหมือนกับฝั่งไทยก็ทำแบบนั้นเช่นกัน อุบัติเหตุจะได้ลดลงและความน่าเชื่อถือใมนการขนส่งจะได้มีมากยิ่งขึ้น ขนส่ง จ.สุรินทร์ กล่าว
ด้านนายแอม ปัญญาริด ประธานช่องโอรเสม็ด กล่าวว่า หลังจากประชุมเสร็จแล้ว ทางกัมพูชาก็จะนำเรื่องนี้ไปเสนอ และประชุม เพื่อให้เกิดการประสานงานให้ดีขึ้น และขอขอบคุณ จนท.ของไทย หากเกิดปัญหาอะไรก็ให้มาพูดคุยกันก่อนในเบื้องต้นเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาต่อไป
©2018 CK News. All rights reserved.