วันที่ 22 ก.ย. 2566 ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุม นายวิษณุฯ อายุ 29 ปี ฐานกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบกิจการให้สินเชื่อฯให้ผู้อื่นกู้เงินฯ
ธุรกิจทวงหนี้ฯ ฝ่าฝืน คกก.18/64 ล.1 เป็นต่างด้าวฯ” โดยจับกุม บริเวณโกดังในต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2564 ได้มีเครือข่ายแก๊งนายทุนชาวจีน และผู้ร่วมขบวนการชาวไทย ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ดอกเบี้ยโหดร้อยละ 5.7225% ต่อวัน หรือ 2,090 % ต่อปี มีผู้เสียหายหลงเชื่อ
วันละ 1,000 ราย พบวงเงินปล่อยกู้มากถึง 3 ล้านบาทต่อวัน โดยใช้แอปพลิเคชัน “360 ยืมเงิน” และ “ยืมเถอะ” เป็นเครื่องมือหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัว โดยให้ลูกค้ากรอกประวัติส่วนตัว เลขประจำตัวประชาชน เบอร์โทร ไลน์ เฟซบุ๊ก เลขบัญชีธนาคาร พร้อมจัดส่งเอกสารที่ลูกค้าต้องใช้ในการกู้ยืมไปให้ ซึ่งแอปฯ ดังกล่าวจะล้วงข้อมูลจากโทรศัพท์ของลูกค้าได้ทุกประเภทเพื่อนำไปใช้ในการทวงหนี้ จากนั้นจะใช้ข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวติดตามทวงเงินจากญาติและเพื่อนร่วมงานของผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ได้รับความเดือดร้อน

ต่อมาเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา เข้าตรวจค้น ทลายแก๊งปล่อยเงินกู้ดังกล่าว ผลการตรวจค้น พบนายหวัง เป่ย ชาวจีน อายุ 33 ปี แสดงตนเป็นผู้ดูแล มีพนักงานคนไทยทั้งชายและหญิงรวม 39 คน ในนั้น (มีนายวิษณุฯ ผู้ต้องหารายนี้รวมอยู่ด้วย) พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 39 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 39 เครื่อง  พนักงานทั้งหมดให้การรับว่าทำหน้าที่เป็นแอดมิน โดยมีนายหวัง เป่ย เป็นหัวหน้า จึงทำการควบคุมตัวแก๊งปล่อยเงินกู้ดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินตามกฎหมาย

ต่อมา นายวิษณุฯ หนึ่งในแอดมินของแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบดังกล่าว ได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลเพื่อขอปลอยตัวชั่วคราว หลังจากได้รับการปล่อยตัว นายวิษณุฯ ได้หลบหนีไป ไม่ปฏิบัติตามหมายเรียกของศาล จึงออกหมายจับนายวิษณุฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายวิษณุฯ ได้หลบหนีมาทำงานอยู่ที่โกดังในตำบลหนองปลาไหล อำเภอบางละมุง ชลบุรี จึงได้เข้าจับกุมตัวนายวิษณุฯ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวส่งศาลจังหวัดพัทยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป