ศาลยกฟ้อง "ปารีณา" คดีจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน


8 ก.ย. 2566, 19:38

ศาลยกฟ้อง "ปารีณา" คดีจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน




วันที่ 8 ก.ย. 2566 องค์คณะผู้พิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.21/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 25/2566 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ผู้ถูกกล่าวหา อดีต สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ

คดีนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 ว่า ผู้ถูกกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน 2 รายการ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1), 167 และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ ศาลไต่สวนพยานผู้ร้อง 2 นัด พยานผู้ถูกกล่าวหา 1 นัด

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมติเสียงข้างมาก เห็นว่า สำหรับรายการเงินให้กู้ยืมรายนาย ป. นั้น ทางไต่สวนข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นาย ป. ยอมรับว่า ผู้ถูกกล่าวหาให้เงินสนับสนุนในการหาเสียงเลือกตั้งประกอบกับพฤติการณ์ที่นาย ป. เปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาโพธาราม และสั่งจ่ายเช็คมอบให้ผู้ถูกกล่าวหาเป็นหลักประกัน เมื่อผู้ถูกกล่าวหาขอหลักประกันเพิ่ม นาย ป. ได้นำโฉนดที่ดินไปให้ผู้ถูกกล่าวหายึดถือ และนาย ป. เคยบอกนาย ส. ว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง และขอให้นาย ส. ไปเป็นเพื่อนเพื่อไปทำสัญญากู้ยืมที่ผู้ถูกกล่าวหาให้การสนับสนุนนาย ป. ในการลงสมัครรับเลือกตั้งโดยนาย ส. ได้ยินผู้ถูกกล่าวหาพูดทวงเงินจากนาย ป. เชื่อว่านาย ป. ได้รับเงินช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งจากผู้ถูกกล่าวหาและไม่ได้เป็นการช่วยเหลือแบบให้เปล่า 

แม้ไม่ปรากฏพยานหลักฐานการส่งมอบเงินแต่ทางไต่สวนไม่ปรากฏพยานหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าสัญญาเงินกู้ดังกล่าวเป็นเอกสารสิทธิปลอม และไม่ปรากฎข้อเท็จจริงจากสำนวนการไต่สวนของผู้ร้องว่ามีการสมคบกันทำสัญญาเงินกู้ขึ้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถูกกล่าวหา จึงเข้าใจโดยสุจริตว่าตนมีสิทธิตามสัญญาเงินกู้ จึงฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบต่อผู้ร้องสำหรับรายการนี้

ส่วนรายการพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ส้นด้าย และพระสมเด็จนางพญาพิษณุโลก พิมพ์อกนูนใหญ่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมติเสียงข้างมาก เห็นว่า การยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของผู้ถูกกล่วหาในการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ถูกกล่าวได้แสดงรายการพระเครื่องทั้งสององค์โดยขอใช้เอกสารชุดเดิมทั้งหมด ประกอบกับนาย อ. อดีตสามีของผู้ถูกกล่าวหาให้ถ้อยคำว่า นาย อ. เป็นเจ้าของพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย (กรุใหม่) และพระสมเด็จนางพญาพิษณุโลก พิมพ์อกนูนใหญ่ ซึ่งเป็นองค์เดียวกับที่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของคู่สมรส การจัดทำบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา กรณีพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี ในปี 2557 นาย อ. มอบให้เลขานุการเป็นผู้รวบรวมเอกสารนำไปยื่นต่อผู้ร้อง เนื่องจากนาย อ.
กำลังจะหย่ากับผู้ถูกกล่าวหา

นาย อ. เคยให้ผู้ถูกกล่าวหายืมใส่พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย (กรุเก่า) และพระนางกำแพง หลังจากหย่ากันผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้คืนให้ พระเครื่องที่ผู้ถูกกล่าวหาครอบครองเป็นคนละองค์กับพระเครื่องสององค์ดังกล่าว และผู้ถูกกล่าวหาให้ถ้อยคำว่าหลังจดทะเบียนหย่าผู้ถูกกล่าวหาครอบครองพระเครื่องสององค์เรื่อยมาเป็นเหตุให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้าใจว่าตนเป็นเจ้าของพระเครื่องทั้งสององค์ที่อยู่กับตนและเป็นองค์เดียวกับที่เคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง 


สอดคล้องกับที่นาย พ.ผู้เชี่ยวชาญ ให้ถ้อยคำว่า คนทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญและไม่มีความรู้เรื่องพระเครื่องย่อมไม่อาจแยกแยะข้อแตกต่างของพระเครื่องทั้งสององค์ได้ เชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาเข้าใจมาโดยตลอดว่าพระเครื่องทั้งสององค์ที่ได้รับมาจากนาย อ. ระหว่างสมรสและอยู่ในความครอบครองเรื่อยมา คือ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย (กรุใหม่) และพระสมเด็จนางพญาพิษณุโลก พิมพ์อกนูนใหญ่ ที่ยื่นและอ้างไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ

โดยไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าพระเครื่องสององค์ที่นำมาแสดงต่อผู้ร้องเป็นคนละองค์กับที่ ผู้ถูกกล่าวหายื่นไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ พฤติกรณ์แห่งคดีจึงฟังไมได้ว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาแสดงรายการพระเครื่องไม่ตรงกับที่มีอยู่จริงและระบุราคาสูงกว่าความเป็นจริง กรณีจึงรับฟังไม่ได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชี
แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบต่อผู้ร้อง พิพากษายกคำร้อง





คำที่เกี่ยวข้อง : #ปรีณา  









©2018 CK News. All rights reserved.