ผู้เสียหายครึ่งร้อย ยื่นค้านประกันตัว เสี่ยเต๊นท์รถ หลอกซื้อ-ขายรถหลายร้อยคดี 


29 ส.ค. 2566, 13:27

ผู้เสียหายครึ่งร้อย ยื่นค้านประกันตัว เสี่ยเต๊นท์รถ หลอกซื้อ-ขายรถหลายร้อยคดี 




วันนี้ (28 ส.ค.66) เวลา 14.05 น.ที่ศาลจังหวัดรัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ พบว่ามีประชาชนผู้เสียหายกว่า 51 คน รวมตัวกันยื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัว นายสมบูรณ์  ยือรัมย์ อายุ 49 ปี ชาว ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และนางกมลพร อัญชลี อายุ 39 ปี ชาว ต.หนองเทพ อ.โนนรารายณ์ จ.สุรินทร์  ต่อศาลจังหวัดรัตนบุรี ซึ่งทั้งสองคนเป็นผู้ต้องหาหลายคดี ประกอบด้วยคดี ร่วมกันชิงทรัพย์,ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายทั้งร่างกายและจิตใจของผู้อื่น ,ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำนนต่อสิ่งใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัว ว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย  เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือผู้อื่น หรือใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือยินยอมต่อสิ่งนั้น ,พาอาวุธ(สนับมือ)ไปในเมืองหมู่บ้ายหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร

การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจาก พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภาณุวัฒน์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์   นำหมายศาล จ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ตามหมายจับที่ 82/2566 ลงวันที่ 23 ส.ค.2566 ในหลายข้อหาดังกล่าวข้างต้น ระหว่างที่ผู้ต้องหาทั้งสองคนกำลังขับรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเอเวอร์เรส สีขาว ป้ายแดง เข้าไปในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ก่อนถูกจับกุม ตามที่เป็นข่าวเมื่อวันที่ 26 ส.ค.66 ที่ผ่านมา

จากนั้น พ.ต.ท.พรหมพิริยะ พันสีเงิน สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบัว อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ได้รับตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปสอบสวนที่ สภ.เมืองบัว และพบว่ามีประชาชนผู้เสียหายกว่า 20 คน ที่แจ้งความไว้แล้ว ที่ต้องการเห็นหน้าและคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะกลับออกไปหลอกลวงชาวบ้านรายอื่นอีก

สำหรับเต๊นท์รถที่ผู้ต้องหาเปิดหลอกบริการประชาชน มีผู้เสียหาบแจ้งความเป็นคดีแล้วประมาณ 220 คดี บิ๊กโจ๊กเคยบินมาแถลงข่าวใหญ่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์  2562 แต่หลังจากนั้นแต่ละคดี อัยการตีสำนวนกลับเป็นจำนวนมาก ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว หลังจากเกิดนั้นเต๊นท์ขายรถของผู้ต้องหา ที่ อ.สตึก ก็ไม่มีใครไปซื้อ จึงปรับเปลี่ยนวิธีการด้วยการตระเวนรับซื้อรถตามที่มีคนประกาศขายตามเฟซบุ๊ก และก่อคดีอีกหลายคดี แต่ยังไม่ถึงชั้นศาล

ทั้งนี้หลังจาก พ.ต.ท.พรหมพิริยะ พันสีเงิน สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบัว อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ได้รับตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปสอบสวนที่ สภ.เมืองบัว แล้ว เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2566 เวลา 10.345 น.พนักงาน สภ.เมืองบัวได้ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 1  ในคดรีอาญาหมายเลขดำที่ ฝ43/2566 ในข้อหาข้างต้น โดยศาลจังหวัดรัตนบุรี มีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขัง ครั้งที่ 1 กำหนด 12 วัน และศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และผู้ร้อง ผู้เสียหายรวมถึงพยานสำคัญในคดีคัดค้านการขอให้ปล่อยชั่วคราว อีกทั้งพฤติการณ์ตามคำร้องขอฝากขังนั้น เห็นได้ว่าผู้ต้องหาที่ 1 มีพฤติการณ์ที่อุกอาจ เชื่อได้ว่าหากปล่อยตัวชั่วคราว จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือหลบหนี

นายธนูศักดิ์  มาธิมัง อายุ 67 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 54 ม.16  ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพล สุรินทร์ (เสื้อลาย) ผู้เสียหาย ซึ่งขายรถให้เต็นท์รถแต่ไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว กล่าวว่า เต็นท์รถของนายสมบูรณ์  ผู้ต้องหา มาซื้อรถของตน  เป็นบุคคลที่พูดอีกอย่างทำอีกอย่าง ผัดวันประกันพรุ่ง โกหกตอแหล ให้พี่น้องประชาชนของเราได้ทุกข์ทรมานจากดการซื้อขายรถยนต์ เป็นบุคคลอันตราย เป็นภัยต่อชีวิตเป็นพิษต่อสังคมอย่างมันต์ จึงพากันมาคัดค้านการประกันตัวในครั้งนี้ เขามาซื้อรถยนต์ ตนตั้งราคาไว้ 1 แสนบาท แต่เขาต่อราคาลงมาเหลือ 7 หมื่นบาท ตนไม่ได้เงินจากเขาแม้แต่บาทเดียว  ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.2566 จนถึงวันนี้   ตนหลงเชื่อเห็นมีเต๊นท์รถและพูดจาน่าเชื่อถือ มีการต่อรองราคา จึงหลงเชื่อ จึงได้ให้รถไปก่อน  ฝากถึงประชาชนอย่าหลงเชื่อบุคคลในลักษณะนี้อีก นายธนูศักดิ์ฯกล่าว

น.ส.สาวิณี มาลีหวน อายุ 39 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.1 ต.นาหนองไผ่ ชุมพล จ.สุรินทร์ (เสื้อเหลืองใส่แม๊สปิดปาก) ผู้เสียหายกล่าวว่า ตนเดือดร้อนมาก หลังจากซื้อรถจากเต็นท์เขา ต้องคอยตามคอยเช็ค ผลัดวันนั้นวันนี้ ซื้อรถเงินสดแต่ไม่ได้เล่ม ตนซื้อรถตั้งแต่เดือน ธ.ค.65 ตนติดตามถามหาเล่มทุกเดือนเขาก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่อยเปื่อย แถมยังแนะนำคันใหม่มาให้ ตนก็ไปดูก็เหมือนกับว่า ไม่โปร่งใสก็เลยไม่เอา จึงรวมตัวกันมาช่วยการคัดค้านประกันตัว น.ส.สาวิณีฯกล่าว

นางอำไพ หาญชนะ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.7 บ.นางแคบ ต.หนองอียอ อ.สนม จ.สุรินทร์ (เสื้อเหลืองลายดอก ปิดแม๊สใต้คาง) ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนขายรถยนต์แต่ไม่ได้เงิน เขาเอารถไปก่อน นัดวันนั้นวันนี้ก็ยังไม่ได้ จนมารู้ทีหลังว่าเขาขายรถของตนเองไปแล้ว ตนขายให้วันที่ 22 ธ.ค.66   แต่เขาเอารถไปขายวันที่ 26 ธ.ค.66 มันก็บอกว่าเอารถไปทำสีใหม่ ทั้งที่ตนรู้แล้วว่าเขาเอาไปขายแล้ว ตอนนี้ตนก็เห็นรถแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงถึงจะได้รถคืน แจ้งตำรวจ สภ.สตึกดแล้วก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงรวมตัวกันคัดค้านประกันตัวไม่ให้ออกมา ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด นางอำไพฯกล่าว

ด้านนายสัญญา  โอดเปี้ย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.1 ต.บ้านคู อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า วันนี้ตนพาผู้เสียหายมารวมตัวยื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัวต่อศาลจังหวัดรัตนบุรี ประมาณ 50 คน ตนและผู้เสียหายมีความเดือดร้อนอย่างมาก ทางไฟแนนช์รถก็จะมายึดที่ เพราะว่านายสมบูรร์ไม่ได้ไปปิดไฟแนนช์ให้ ผู้เสียหายเดือดร้อนมาก เงินทองก็ไม่มี ต้องติดหนี้ยืมสิน ซึ่งศาลท่านก็รับเรื่องและไม่ให้ประกันตัว เพราะถ้าประกันตัวออกไปทุกคนก็เดือดร้อน เพราะว่าเขาเป็นคนมีอิทธิพลและชอบใช้ความรุนแรง รังแกคนอื่น โกงคนอื่นไปแล้วยังไปทำร้ายร่างกายคนอื่นอีก เขาบอกว่าเขาไม่กลัวอะไร เขาบอกว่าเขาเป็นใหญ่ มีคดี 200-300 คดี ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้เลย ก็อยากให้ดำเนินคดีกับบุคคลอันตรายรายนี้ให้ถึงที่สุด เพราะว่าประชาชนผู้เสียหายเดือดร้อนและลำบากมาก ในการทำมาหากินต้องกู้หนี้ยืมสินและติดหนี้รอบตัว เนื่องจากต้องมีภาระในครอบครัวอีก บางครอบครัวหย่าร้างกันไป และคิดสั้นก็มี นายสัญญาฯกล่าว





คำที่เกี่ยวข้อง : #เต๊นท์รถ  









©2018 CK News. All rights reserved.