"รองต่อ" มาแรงนั่ง ผบ.ตร. คนใหม่ สานต่อนามเรียกขาน "พิทักษ์ 1"


17 ส.ค. 2566, 11:59

"รองต่อ" มาแรงนั่ง ผบ.ตร. คนใหม่ สานต่อนามเรียกขาน "พิทักษ์ 1"




เป็นที่น่าจับตามองอย่างมากสำหรับวงการ “สีกากี”  กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ แทน “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์” ผบ.ตร. ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย. นี้.

โดยล่าสุดสำนักข่าว เดลินิวส์ ได้เปิดเผยระบุว่า ตามเงื่อนไขการแต่งตั้ง “ผบ.ตร.คนใหม่” ถือเป็น “ปีแรก” ที่เปลี่ยน “กฎเหล็ก” จากเดิม นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้คัดเลือกรายชื่อ รอง ผบ.ตร. นำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายตํารวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เห็นชอบ มาเป็นการพิจารณากลั่นกรอง จาก “6 ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ” ที่ได้รับการเลือกตั้ง “ประทับตรา” ผ่านเท่านั้น

อยู่ที่ว่า พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์, พล.ต.อ.วินัย ทองสอง, พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก, ศ.กิตติคุณศุภชัย ยาวะประภาษ, รศ.ประทิต สันติประภพ, นายฉัตรชัย พรหมเลิศ “6 ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ” จะพิจารณาเลือกใคร

หากดูในรายชื่อที่ถูกคาดการณ์ 1 ในนี้ จะเป็นผู้รับไม้ต่อ นามเรียกขาน “พิทักษ์ 1” ได้แก่

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 40 เกษียณอายุราชการปี 2567

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 47 เกษียณอายุราชการปี 2574

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 41เกษียณอายุราชการปี 2569

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล นายร้อยอบรม เกษียณอายุราชการปี 2567

แต่ละคนโปรไฟล์ไม่ธรรมดาทั้ง “ฝีไม้ลายมือ-ผลงาน-ประสบการณ์” แต่ที่น่าจับมองที่สุดคงไม่พ้น “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์” ที่ได้ความไว้วางใจให้ดูหน้างานป้องกันปราบปราม แม้ในไลน์ “รอง ผบ.ตร.” และ “จเรตำรวจแห่งชาติ” จะเป็นน้องเล็กสุดท้อง “อาวุโสลำดับสุดท้าย” แต่ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า “อาวุโส” ก็ไม่สำคัญเท่ากับ “ความสามารถและความไว้ใจ”

เห็นได้จากสมัย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา, พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ต่างก็เป็น “อาวุโสลำดับท้าย” ก่อนถูกเสนอชื่อเป็น “ผบ.ตร.” มาแล้วด้วยกันทั้งนั้น ไม่รวมไปถึงชื่อของ “รองต่อ” ที่ในวงการต่างรู้ว่ามีแรงผลักดันระดับ “ซูเปอร์พาวเวอร์”…

หากเปรียบเชิงมวยเทียบน้ำหนักแบบ “ปอนด์ต่อปอนด์” กับรอง ผบ.ตร. ท่านอื่นๆ ก็ถือว่า “ภาษี” ดีกว่า แม้เจ้าตัวจะเคยออกตัวหลายครั้งว่าไม่ต้องการเดินไปสู่จุดนั้น แต่เส้นทางและการเติบโตแบบก้าวกระโดด ทำให้ถูกจับตามองเป็น “พิเศษ” ว่าถูกวางตัวไว้เป็น “ว่าที่ ผบ.ตร.คนที่ 14”

ขณะที่ “รองรอย” พล.ต.อ.รอย เป็นหนึ่งในตัวเลือกน่าจับตา เพราะหากมองเรื่องคุณสมบัติ ถือว่า “ครบเครื่อง” ได้ทั้ง “บุ๋น” และ “บู๊” อีกทั้งที่ผ่านมา “รองรอย” สอบผ่านทุกหน้างานในระดับ ตร. ทั้ง ปราบปราม, สืบสวน และความมั่นคง ด้วยภาพบุคลิกที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีวิสัยทัศน์ทันสมัย เน้นการพัฒนาระบบ นำเทคโนโลยีมาใช้งาน

แถมถึงเวลาสำคัญก็ตัดสินใจเด็ดขาด ตรงไปตรงมา “เน้นทำงาน-ไม่ออกสื่อ” จนเป็นที่ไว้วางใจของผู้บังคับบัญชา และมีทีมงานดี พร้อมสนับสนุนทุกกิจกรรมของตำรวจและรัฐบาล ทำให้บ่อยครั้ง “รองรอย” จะได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญ เช่นในปีนี้ ที่รับผิดชอบภารกิจดูแลภาพรวมการเลือกตั้งทั่วประเทศ

ยิ่งระยะหลัง “รอง ผบ.ตร.” ที่ถูกเสนอชื่อขึ้นดำรงตำแหน่ง “ผบ.ตร.” ทั้งหมด ล้วนมาจากการคุมหน้างาน “ความมั่นคง” อาทิ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง, “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์, “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ หรือกระทั่ง “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ในแวดวงถือว่าเป็นหน้างานโชว์ ที่ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลสร้างผลงานให้เข้าตา “ผู้หลัก-ผู้ใหญ่” ไม่ยาก

หากเป็นไปตาม “ไลน์” อดีตที่วางกันไว้ “รอง ผบ.ตร.” ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลงานความมั่นคงปีนี้อย่าง “รองรอย” ก็มีลุ้นเดินตามรอยรุ่นพี่ๆ ก้าวขึ้นตำแหน่งผู้นำสูงสุดก็ไม่เกินคาดหมาย

นอกจาก “รองต่อ-รองรอย” อีกคนที่ต้องจับตา ไม่พูดถึงคงไม่ได้ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ที่ชั่วโมงนี้ข่าวล่ามาแรง..มีแววจะแซงทางโค้ง เบียดขนาบข้าง “รองต่อ-รองรอย” ชิงดำ ยิ่งได้แรงผลักจาก “พี่เลิฟ” พล.ต.อ.สุวัฒน์ ทำให้ชื่อของ “บิ๊กต่าย” ถูกจับตาว่าจะเบียดเข้าวินในนาทีสุดท้าย ด้วยความเป็น นรต.41 เกษียณอายุราชการปี 2569 หากขึ้นนั่งเบอร์ 1 “เจ้ากรมปทุมวัน” ก็มีเวลาทำงานอีกเยอะ หากจะวางตัว “ระยะยาว” ถือเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เว้นแต่ว่า “บิ๊กต่าย” เลือกงดออกอาวุธปีนี้ เพื่อรอปีหน้า

แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย เนื่องจากยังมี “คู่ชิง” ชื่อ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ในลิสต์ หากเก็บแรงสู้ปีหน้าจริง “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังมีคู่เทียบอย่างน้อย 2 คน ในระนาบผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่จะก้าวขึ้นมาทดแทน รอง ผบ.ตร. ที่เกษียณอายุในปีนี้ ทั้ง พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงษ์ ก็พร้อมร่วมชิงในปีถัดไป ซึ่งแต่ละคนมีค่ายของตัวเองทั้งนั้น และมีอายุราชการเหลือพอเป็น “แคนนิเดต” ปีถัดไป

โดยในรายของ พล.ต.ท.ไกรบุญ (นรต.39) จะเกษียณราชการปี 2568 พล.ต.ท.ธนา (นรต.42) เกษียณราชการปี 2569 เช่นเดียวกัน “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ

ขณะที่ “บิ๊กโจ๊ก” หากนับอายุราชการยังเหลือหลายขวบปีในการที่จะคั่วตำแหน่ง “ผบ.ตร” ปีถัดๆ ไป ไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง แม้จะช้าไปบ้างแต่ก็ได้ผลดี ดั่งสำนวนว่า “ช้าช้าได้พร้าสองเล่มงาม ด่วนได้สามผลามมักพลิกแพลง…” ซึ่งหากเป็นไปตามคาดการณ์ ปีที่มีความหมายสำหรับ “บิ๊กโจ๊ก” คือปี 2569 เป็นห้วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะ “บิ๊กโจ๊ก” จะกลายเป็นอาวุโสอันดับ 1 เพราะหากดูในระนาบผู้ช่วย ผบ.ตร.-ผบช. ที่จะก้าวขึ้นเบียดชิงมีตัวเลือกน้อย

ถึงตอนนั้น เส้นทาง “บิ๊กโจ๊ก” ที่จะก้าวขึ้นสู่ยอดสุดกรมปทุมวัน ก็หาใช่เรื่องยาก ทั้ง “คุณวุฒิ-วัยวุฒิ-อาวุโส” ครบ อาจได้ครองเก้าอี้ ผบ.ตร. ยาวนาน 5 ปี เฉกเช่นเดียวกับ “บิ๊กแป๊ะ” นอกเสียจากว่า “บิ๊กโจ๊ก”จะลุ้นชิงในปีนี้ หรือไม่ยอม “อดเปรี้ยวไว้กินหวาน” ลุ้นชิงดำหลังปี 2567 เพื่ออยากสร้าง “ประวัติศาสตร์” ครองตำแหน่ง ผบ.ตร. นานถึง 7 ปี ก็อยู่ที่ “บิ๊กโจ๊ก” เท่านั้น จะตัดสินใจวางอนาคตในเส้นทางสีกากีให้ออกมารูปแบบไหน!!!


มาถึงตรงนี้ ขอฟันธงไปเลยว่า “รองต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จะถูกเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร. คนต่อไป แต่หากถามในใจของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เชื่อได้ว่าอาจมีตัวเลือกให้ผลักดันเสนอ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ก็เป็นได้

ยิ่งห้วงสัปดาห์ก่อน ฟากการเมืองออกมาสกัด มิให้ “บิ๊กตู่” ชิงตัดหน้าแต่งตั้ง “ผบ.เหล่าทัพ” แต่จากสถานการณ์ตอนนี้ ขนาดโหวตนายกรัฐมนตรียังไม่ได้ การตั้งรัฐบาลก็ยากจะเป็นรูปร่างให้เห็น

ดีไม่ดีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบที่ 3 ในสัปดาห์หน้า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย จะได้เสียงโหวตจาก สว. หนุนในสภาถึง 375 เสียงหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ชัด “อุณหภูมิ” ทางการเมืองร้อนระอุ พอกับการแต่งตั้งผู้นำเหล่าทัพ หลายกระแสมองว่า การตั้ง ผบ.เหล่าทัพครั้งนี้ สำคัญยิ่ง และเป็นการตั้งทิ้งทวนของ “บิ๊กตู่” ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 29

ภาษิตไทยว่าไว้ “ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน” ยิ่งวงการสีกากี โอกาสหลุดโค้ง-ตกลู่ นาทีสุดท้ายเกิดขึ้นได้เสมอ อดีตมีให้เห็นหลายกรณี ที่ว่าชัวร์-นอนมาแต่ไก่โห่ ผิดจังหวะนิดเดียว พลาดให้เห็นมานักต่อนัก และยิ่งการเมืองยังไม่นิ่งแบบนี้แล้ว…บอกเลยแค่กะพริบตาสถานการณ์อาจเปลี่ยน

บรรดากองเชียร์โปรดอดใจรอ ไม่เกินสิ้นเดือนนี้รู้แน่ “ใคร” ตัวจริงที่ถูกเสนอ และ “6 ก.ตร.” จะเคาะเลือกใคร ก็ “คนนั้น” แหละ ที่ได้เป็น “พิทักษ์ 1” คนใหม่ แต่…หากเลือกไม่ได้ อาจมี “รักษาการ ผบ.ตร.” ให้เห็น




ขอบคุณข้อมูล เดลินิวส์


คำที่เกี่ยวข้อง : #ผบ.ตร.  









©2018 CK News. All rights reserved.