วันนี้ 13 ส.ค.66 เวลาประมาณ 12.00 น.ร.ต.อ.โกวิท ทองแผ่นร้อยเวรสอบสวนสภ.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากพนักงานห้างทองเป้งม้งเฮง ทองคำแท้จากเยาวราช เลขที่ 745-746 ม.17 ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ตั้งอยู่ตรงข้าม สภ.กาบเชิง ว่าเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ได้มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 40 -50 กว่าปีนำสร้อยคอทองคำปลอมน้ำหนัก1 บาท หลอกจำนำได้เงินสดไป 29,000 บาท

จนท.ตำรวจจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านจำหน่ายอะไหล่รถจักรยานยนต์ที่อยู่ข้างเคียงก่อน เนื่องจากกล้องวงจรปิดของร้านทองต้องรอประสานสำนักงานใหญ่ตรวจสอบและขออนุญาติก่อน พบภาพคนร้ายชัดเจน เป็นชายวัยประมาณ 40-50 กว่าปี ผมสั้นเกรียน  สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ สวมแม๊สปิดไว้ใต้คาง เดินมุ่งหน้าไปทางร้านทอง หลังจากนั้นประมาณ 4-5 นาทีก็พบภาพคนร้ายเดินผ่านกลับไปก่อนที่ใกล้จะเดินพ้นร้านได้รีบวิ่งหนีเลี้ยวขวาเข้าซอยหลบหนีไปจากการสอบสวนเบื้องต้นของ จนท.ตำรวจ ยังไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร

ซึ่งพนักงานร้านทองไม่ขอเปิดเผยชื่อ เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 11.00 น.คนร้ายได้ทำทีมาขายทอง 1 บาท ในราคา 3 หมื่น ซึ่งราคาขายสูงเกินกำหนด ทางร้านไม่รับ  เนื่องจากราคารับจำนำสูงสุดแค่ 29,000 บาทและราคาทองวันนี้อยู่ที่บาทละ 31,850 เท่านั้น คนร้ายจึงเปลี่ยนมาขอจำนำแทน ทางพนักงานจึงขอตรวจสอบบัตรประชาชน คนร้ายอ้างว่าไม่ได้เอามา จึงขอชื่อคนร้าย คนร้ายจึงบอกว่าตนเอง ชื่อ นายอุทัย โลเกต อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.4 ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง หลังจากคนร้ายได้เงินไป พนักงานในร้านก็ช่วยกันตรวจสอบด้วยการเผาทองดู ปรากฏว่าทองดำ เพราะทองจริงจะไม่ดำเวลาเผาไฟ จึงเชื่อได้ว่าเป็นทองปลอม และได้ทำการแจ้งเจ้าของร้านและเจ้าหน้าที้ตำรวจดังกล่าว ซึ่งพนักงานก็ยอมรับว่าเกิดจากความผิดพลาดของพนักงานเองที่ไม่ตรวจสอบทองให้ดีเสียก่อนและจากการตรวจสอบภายหลังพบว่าชื่อคนร้ายก็เป็นชื่อ นามสกุลและที่อยู่ปลอมที่คนร้ายแอบอ้าง

 จากนั้นเวลา 17.20 น. นายธนัท เจียอุดมเดช เจ้าของร้านทองเป้งม้งเฮง สาขากาบเชิง ได้เดินทางไปยังร้านทองที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า เกิดจากความผิดพลาดของพนักงานที่ไม่ตรวจสอบทองให้ดี จริงๆทองรูปพรรณ 1 บาทจะมีน้ำหนักไม่เกิน 15.16 กรัม หรือ 15.20 กรัมแค่นั้นเอง  แต่ทองปลอมเส้นนี้เกินน้ำหนักอยู่ที่ 15.66 กรัม หากเกินมาตรฐานโอกาสปลอมสูงอยู่แล้ว พนักงานไม่ฟัง จริงต้องโทรหาตนเอง พนักงานก็พึ่งมาทำงานใหม่ได้ไม่กี่เดือน  นอกจากนี้ก็ต้องฝนทองแล้วหยอดน้ำกรดตรวจสอบดูด้วย หากเป็นสีดำก็เป็นทองปลอม ทองจริงจะไม่เปลี่ยนสี พนักงานก็ไม่ได้ตรวจสอบอีก รวมถึงบัตรประชาชนก็ต้องมี เพราะถ้าไม่มีก็จะผิดระบบจากที่อำเภอกำหนด ไม่รับซื้อหรือจำนำ แต่พนักงานพลาดเอง ซึ่งจะต้องเรียกพนักงานไปอบรมใหม่ เจ้าของร้านทองกล่าว

 จนท.ตำรวจ สภ.กาบเชิง ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่อย่างใด กำลังเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด และได้ฝากถึงประชาชนให้ช่วยแจ้งเบาะแสด้วยหากใครรู้จักและพบเห็นคนร้ายที่มีรูปพรรณสันฐานตามภาพกล้องวงจรปิดให้ช่วยกรุณาแจ้ง จนท.ตำรวจ สภ.กาบเชิงด้วย