"ปวีณา พร้อมอดีตภรรยาฆ่ายกครัว 4 ศพ ร่ำไห้รับศพลูกชายแม่และป้า


8 ส.ค. 2566, 19:38

"ปวีณา พร้อมอดีตภรรยาฆ่ายกครัว 4 ศพ ร่ำไห้รับศพลูกชายแม่และป้า




เวลา 16.00 น. วันที่ 8 ส.ค. 2566 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย น.ส.ชมพู่ อดีตสามีจยย.ฆ่ายกครัวก่อนยิงตัวตายตาม เดินทางมายังแผนกนิติเวช โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เพื่อรับทั้ง 4 ศพไปบำเพ็ญกุศล ณ ศาลา 6 วัดเกาะสุวรรณาราม เขตสายไหม 

นางปวีณา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางมูลนิธิได้รับแจ้งร้องเรียนจากนางสาวชมพู่ผ่านทาง facebook โดยนางสาวชมพู่มีอาการเครียด นอนไม่หลับทั้งคืน และสภาพจิตใจย่ำแย่อย่างมาก จึงประสานขอให้ทางมูลนิธิ เข้ามาช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจและค่าทำศพทั้ง 4 ศพ เนื่องจากนางสาวชมพู่ไม่มีเงินเพียงพอที่จะจัดงานศพ 

โดยทางมูลนิธิได้ประสานที่จะให้นำทั้ง 4 ศพ ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเกาะสุวรรณาราม เขตสายไหม โดยจะจัดพิธีรดน้ำศพในเวลา 16:30 และสวดพระอภิธรรมศพ เวลา 18:00 อีกทั้งได้ประสานกับทาง ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ว่า จะพานางสาวชมพู่ ไปให้การเพิ่มเติมภายหลังจัดการพิธีศพแล้วเสร็จ 

นางปวีณา ระบุว่า สถานะความสัมพันธ์ระหว่างนายสมชาย ผู้ก่อเหตุ กับนางสาวชมพู่นั้น ทั้งคู่ได้หย่าขาดเลิกลากันไปสักพักหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นการหย่ากันด้วยดีและฝ่ายชายขอหย่าเอง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายชายยังคงตามมาง้อขอคืนดี แต่ด้วยความที่ฝ่ายชายเป็นคนอารมณ์ร้อนและทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงโดยตลอด น.ส.ชมพู่ จึงไม่จึงไม่อยากกลับไป กลายเป็นว่าฝ่ายชายพยายามพูดข่มขู่ น.ส.ชมพู่ ตลอดว่า ถ้าหากว่าไม่คืนดี จะทำให้นางสาวชมพู่เสียใจที่สุด ช้ำใจที่สุด ซึ่งที่ผ่านมานางสาวชมพู่ไม่เคยรู้เลย ว่านายสมชายจะกระทำการรุนแรงถึงขนาดนี้และยังสงสัยว่า เหตุใดถึงลงกับครอบครัว ลงกับลูก ได้ถึงเพียงนี้ อย่างไรก็ตามนายสมชายไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด ส่วนเรื่องการคบซ้อนนั้นไม่น่าใช่ประเด็นสำคัญ 

นางปวีณา ยังเล่าอีกว่า สาเหตุที่นางสาวชมพู่ไม่มีแม้กระทั่งเงินที่จัดงานศพให้ลูก เพราะเนื่องจากเมื่อวานนี้ก่อนเกิดเหตุนางสาวชมพู่เพิ่งโอนเงินจำนวนหนึ่งเป็นค่าเล่าเรียนให้กับบุตรทั้งสองคนที่เสียชีวิต และเมื่อวานนี้ตอน 19:30 ลูกชายวัย 9 ขวบได้โทรมาหาตน แต่ไม่มีเสียงพูดจากฝั่งลูกชาย ซึ่งนางสาวชมพู่ก็สงสัยว่า ทำไมถึงไม่มีเสียงอะไรเลย จึงคาดว่าตอนนั้น ลูกชายอาจจะ โทรมาขอความช่วยเหลือ แต่ไม่กล้าพูด ภายหลังจึงทราบข่าวว่าลูกชายถูกยิงแล้ว 

ทั้งนี้ นางปวีณายังสะท้อนปัญหาความรุนแรงในครอบครัวอีกว่า เกิดขึ้นถี่อย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยสำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดใจอย่างยิ่งและขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวนางสาวชมพู่ รวมทั้งยืนยันว่า มูลนิธิจะให้ความช่วยเหลือทั้งทางคดีและจัดการงานศพให้ถึงที่สุด 

เวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ได้นำศพ ทั้ง 4 ศพ ออกมาจากนิติเวชเพื่อนำขึ้นรถอาสาสมัคร ซึ่งในระหว่างนั้น นางสาวชมพู่ได้เข้าไปโอบกอดทีละศพและร่ำไห้ออกมา โดยเฉพาะศพลูกชายคนเล็กวัย 7 ขวบนั้น นางสาวชมพู่เป็นคนอุ้มขึ้นรถด้วยตนเอง บรรยากาศในขณะนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและหดหู่ใจอย่างยิ่ง 





คำที่เกี่ยวข้อง : #ฆ่ายกครัว  









©2018 CK News. All rights reserved.