UNODC ปลื้มผลงาน พร้อมผลักดันความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ส. แก้ไขปัญหายาเสพติดชนิดสังเคราะห์


15 ก.ค. 2566, 11:36

UNODC ปลื้มผลงาน พร้อมผลักดันความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ส. แก้ไขปัญหายาเสพติดชนิดสังเคราะห์




วันที่ 15 กรกฎาคม 2566  ณ ห้องรับรองเภา สารสิน นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ให้การต้อนรับ ดร.จัสติส เท็ตเทย์ (Dr. Justice Tettey) หัวหน้าฝ่ายบริหารการให้บริการทางวิทยาศาสตร์ ห้องปฏิบัติการ และยาเสพติด (Drugs, Laboratory and Scientific Services Branch: DLSSB) จากสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime: UNODC) สำนักงานใหญ่ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย และหารือแนวทางการพัฒนาความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อส่งเสริมการแก้ไขปัญหายาเสพติดชนิดสังเคราะห์ในระดับภูมิภาค 

โดยในช่วงเช้าก่อนเข้าพบหารือกับ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายจัสติสได้เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการของสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด (สวพ.) สำนักงาน ป.ป.ส.ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหายาเสพติดชนิดสังเคราะห์
ของ UNODC ซึ่งให้ความสำคัญกับความร่วมมือพหุภาคี การแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า การตอบสนองด้านสุขภาพ และการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหา และ UNODC ได้แสดงความชื่นชมการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ส. ทั้งในระดับประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด  การจัดการและการทำลายยาเสพติดและสารเคมีอย่างปลอดภัย รวมถึงโครงการเสริมสร้างเครือข่ายเยาวชนเพื่อการป้องกันยาเสพติด

ในการแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาองค์ความรู้และเทคนิคด้านการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด  UNODC ได้แสดงความชื่นชมโครงการของสำนักงาน ป.ป.ส. ในการจัดการฝึกอบรมให้แก่นักวิทยาศาสตร์ สปป.ลาว ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ UNODC ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า และ UNODC ประสงค์ที่จะร่วมมือและสนับสนุนการใช้ห้องปฏิบัติการของ สวพ. เป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมด้านการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดให้แก่ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อไป

ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนแนวทางการให้ความช่วยเหลือประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในการจัดการและทำลายยาเสพติดและสารเคมีอย่างปลอดภัย โดย UNODC ได้แสดงความชื่นชมสำนักงาน ป.ป.ส. ที่ให้การสนับสนุนประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง โดยเฉพาะ สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมา ในการพัฒนาขีดความสามารถในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เน้นย้ำความสำคัญของเรื่องนี้ 

ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาการจับยึดยาเสพติดและสารเคมีได้เป็นจำนวนมากในห้วงที่ผ่านมา ยังช่วยลดปัญหาและผลกระทบจากอันตรายจากสารตกค้างของยาเสพติดและสารเคมี ซึ่งส่งผลต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมของโลกด้วย ทั้งนี้ UNODC ยังรับที่จะนำแนวคิดของเลขาธิการ ป.ป.ส. เรื่องการสร้างเตาเผายาเสพติดและสารเคมีใน สปป.ลาว เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกับเมียนมาในอนาคต ไปศึกษาความเป็นไปได้และพิจารณาแนวทางในการให้การสนับสนุนต่อไป เนื่องจากในปัจจุบัน UNODC ได้รับงบประมาณสนับสนุนโครงการพัฒนาศักยภาพในเรื่องดังกล่าวของ สปป.ลาว ซึ่งขณะนี้อยู่ในห้วงการจัดทำรายงานประเมินศักยภาพและคาดว่า
จะได้ข้อสรุปในอนาคตอันใกล้

ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการป้องกันยาเสพติด โดยเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้ยกตัวอย่างโครงการป้องกันยาเสพติดในกลุ่มเยาวชน ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ริเริ่มโครงการพัฒนาเครือข่ายเยาวชนระหว่างประเทศเพื่อการป้องกันยาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องติดต่อกันมาแล้ว 2 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนในอนุภูมิภาคได้แลกเปลี่ยนและเสนอแนวทางของตนเองในการป้องกันปัญหายาเสพติด และพร้อมที่จะร่วมมือกับ UNODC เพื่อขยายผลโครงการนี้ไปสู่ระดับโลกต่อไป  ผู้แทน UNODC ได้แสดงความชื่นชมแนวคิดที่ให้เยาวชนออกแบบการป้องกันยาเสพติดด้วยตัวเอง และรับที่จะนำกลับไปเสนอให้แก่ผู้อำนวยการบริหาร UNODC ซึ่งให้ความสำคัญต่อการป้องกันยาเสพติดในกลุ่มเยาวชน  เพื่อหาทางต่อยอดและสนับสนุนแนวคิดของประเทศไทยที่จะขยายเครือข่ายเยาวชนไปยังประเทศอื่น ๆ 
ในระดับภูมิภาคและนานาชาติ 

นอกจากนี้ ผู้แทน UNODC ยังได้กล่าวเชิญสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมจัดกิจกรรมคู่ขนานเกี่ยวกับการสร้างเครือข่ายเยาวชนเพื่อการป้องกันยาเสพติดในการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยต่อไป เพื่อขยายผลโครงการที่ถือเป็นแบบอย่างหนึ่งที่น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก

ในช่วยท้ายของการหารือ ผู้แทน UNODC ได้ตอบรับคำเชิญของ เลขาธิการ ป.ป.ส. ที่จะหาโอกาสกลับมาเยี่ยมชมวิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ (วปส.) รวมถึงชื่นชมแนวคิดที่จะพัฒนา วปส. ให้เป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมด้านยาเสพติดให้แก่ประเทศในอนุภูมิภาคต่อไป





คำที่เกี่ยวข้อง : #ปปส.  









©2018 CK News. All rights reserved.