จับหนุ่มลักทรัพย์นักท่องเที่ยวจีน ในสนามบินดอนเมือง


15 ก.ค. 2566, 11:24

จับหนุ่มลักทรัพย์นักท่องเที่ยวจีน ในสนามบินดอนเมือง




วันที่ 15 กรกฎาคม 2566 พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว  ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมกำลังเข้าจับกุม นายวสันต์ชัย หรือโต้ง พิริยะสงวนพงศ์ อายุ 39 ปี ได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 40/334 ห้องที่ 4 ซอยพหลโยธิน 48 แยก 22 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 ได้มี MR.Fa Junnan สัญชาติจีน เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ว่ากระเป๋าสะพายข้างแบบผู้ชาย ยี่ห้อ Lois Vuitton จำนวน 1 ใบ ราคาประมาณ 90,000 บาท พร้อมทรัพย์สินภายในกระเป๋า คือ 1.หนังสือเดินทางประเทศจีน(PASSPORT) , 2.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ I PHONE X จำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 40,000 บาท , 3.AIRPODS จำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 6,000 บาท , 4.กุญแจรถเบ๊นซ์ จำนวน 1 ดอก ราคาประมาณ 5,000 บาท และ 5.กระเป๋าสตางค์ยี่ห้อ Louis Vuitton ราคาประมาณ 30,000 บาท ภายในมีเงินสดจำนวนวน 30,000 บาท , เงินหยวน จำนวน 200 หยวน (ประมาณ 970 บาท) , บัตรกดเงินสด และ บัตรเครดิต(รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 201,970 บาท) ของผู้เสียหายได้หายไป 

โดยผู้เสียหายได้วางกระเป๋าสะพายข้างแบบผู้ชาย ยี่ห้อ Lois Vuittonฯ วางไว้ที่ บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 ระหว่างประตู 2-3 ชั้น 1 อาคาร 1 สนามบินดอนเมือง แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยผู้เสียหายแจ้งว่า ตนเองได้เดินทางมาจากประเทศจีนพร้อมกับเพื่อนของตน เพื่อมาท่องเที่ยว เมื่อมาถึงท่าอากาศยานดอนเมือง จึงได้ลงมาจากเครื่องผ่านด่าน ตม. แล้วจึงได้ไปรอคนที่มารับบริเวณทางออก ประตู 2-3 ชั้น 1 อาคาร 1 สนามบินดอนเมือง แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และได้วางกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดไว้ที่พักเก้าอี้นั่งรอ บริเวณสถานที่เกิดเหตุ รวมทั้งกระเป๋าสะพายข้างแบบผู้ชาย ยี่ห้อ Lois Vuittonฯ ใบที่หายพร้อมทรัพย์สินภายในกระเป๋าด้วย 

เมื่อวางสัมภาระเสร็จผู้เสียหายก็ได้ไปซื้อของภายในร้านร้านสะดวกซื้อ 7-11 เมื่อซื้อเสร็จแล้วเดินออกมายังสถานที่เกิดเหตุ พบว่ากระเป๋าสะพายข้างแบบผู้ชาย ยี่ห้อ Lois Vuittonฯ ได้หายไป ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุต่อไป  และแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อติดตามกระเป๋าคืนและคนร้ายที่แท้จริงมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ 

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เมื่อได้รับแจ้ง จึงได้ออกไปตรวจยังสถานที่เกิดเหตุ สืบค้นหาข้อมูลพยานหลักฐาน และกล้องวงจรปิดเส้นทางที่คนร้ายใช้ก่อเหตุและหลบหนี พบว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 เวลาประมาณ 19.38 น. พบชายไม่ทราบชื่อ สวมใส่กางเกงขายาวสีดำ เสื้อคลุมแขนยาวสีเทา ด้านในสวมเสื้อสีน้ำเงินมีลายจุดสีขาว สวมหมวกแก็ปสีเขียว-ขาว สวมหน้ากากอนามัยสีดำและรองเท้าผ้าใบสีดำ ก้มหยิบเอากระเป๋าสะพายข้างฯ ของผู้เสียหาย ซึ่งวางไว้ที่สถานที่เกิดเหตุ แล้วเดินหลบหนีไปทางประตูทางออกที่ 2 ผ่านด้านหน้าอาคาร 1 มุ่งหน้าประตู 4 ทางเข้าท่าอากาศยานดอนเมือง และเดินออกถนนวิภาวดี ขาเข้า 

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนฯ จึงได้ไล่เส้นทางที่คนร้ายมาก่อเหตุ จึงได้พบว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 คนร้ายได้เดินออกจากเคาน์เตอร์ บริษัท พระพิราบ จำกัด อาคาร 1 ชั้น 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง เวลาประมาณ 05.59 น. แต่การแต่งตัวของคนร้ายจะแต่งกายโดย สวมใส่กางเกงขายาวสีดำ เสื้อคลุมแขนยาวสีเทา ด้านในสวมเสื้อสีดำ ไม่สวมหมวก สวมหน้ากากอนามัยสีดำและรองเท้าผ้าใบสีดำ  ต่อมาเวลาประมาณ 08.18 น. คนร้ายได้เดินขึ้นมาที่ ชั้น 3 อาคาร 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง ผ่านหน้าห้องน้ำชาย มานั่งอยู่บริเวณที่นั่งพักคอยผู้โดยสาร 

ต่อมาเวลาประมาณ 12.11 น. คนร้ายลุกจากที่นั่งพักคอยผู้โดยสารเดินเข้าไปในห้องน้ำชาย แล้วได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เสื้อด้านในที่สวมใส่จากเสื้อสีดำ เปลี่ยนเป็นเสื้อสีน้ำเงินลายจุดสีขาว และสวมใส่หมวกแก็ป สีเขียว-ขาว ออกมา ซึ่งในส่วนของกางเกง รองเท้า และกระเป๋าเป้สะพายหลังยังคงเป็นชุดเดิม ตรงกับตำหนิรูปพรรณคนร้ายที่ก่อเหตุทุกอย่าง เจ้าหน้าที่จึงได้สืบหาข้อมูลเชิงลึกและหาพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม จนสามารถพิสูจน์ทราบได้ว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือ นายวสันต์ชัย พิริยะสงวนพงศ์ อายุ 39 ปี จึงนำกำลังเข้าจับกุม

นายวสันต์ชัย ให้การรับว่า เป็นคนหยิบกระเป๋าของกลางดังกล่าวไปจริง โดยผู้ต้องหารับว่าเมื่อแอบหยิบกระเป๋ามาแล้วก็นั่งรถแท็กซี่(Taxi) ออกจากสนามบิน และได้ค้นเอาแค่เงินสดทั้งสกุลบาทและหยวนไป และนำของกับกระเป๋าไปทิ้งที่บริเวณ ถังขยะตรงปากทางรามอินทรา ซอย 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. แล้วหลบหนีต่อไป เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฯ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบประวัตินายวสันต์ชัย หรือโต้ง พิริยะสงวนพงศ์ เคยต้องหาคดี ดังนี้
-เมื่อประมาณ ปี 2554 เคยถูกจับใน ข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)ฯ” ในพื้นที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
-เมื่อประมาณ ปี 2565 เคยถูกจับใน ข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์ฯ” ในพื้นที่ สภ.องครักษ์ จังหวัดนครนายก





คำที่เกี่ยวข้อง : #ลักทรัพย์  









©2018 CK News. All rights reserved.