วันนี้ 12 กรกฎาคม 2566 พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์  ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ศจร.ตร. )  เปิดเผยว่า เมื่อเช้าวานนี้ (11 กรกฎาคม 2566) ตำรวจจราจร สภ.เมืองพังงา ได้อุ้มเด็กที่ได้บาดเจ็บที่ขานำส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลพังงา ที่อยู่ห่างไปประมาณ 200 เมตร โดยมีคนชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจรรายนี้กันเป็นจำนวนมาก
 
พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า กรณีล่าสุด เหตุเกิดเวลา 07.10 น. ของเมื่อวานนี้ ร.ต.อ.ณรงค์ มาลาแวจันทร์ รอง สว.จร.สภ.เมืองพังงา ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าที่ทำการไปรษณีย์พังงา ต.ท้ายช้าง อ.เมืองพังงา ได้มีหญิงขับขี่รถจักรยานยนต์ มีลูกชายอายุ 7 ขวบ เป็นผู้โดยสารเพื่อไปส่งโรงเรียน เมื่อมาถึงบริเวณดังกล่าวรถได้เสียการทรงตัวและลื่นล้ม ร.ต.อ.ณรงค์ฯ จึงประสานรถฉุกเฉินให้มารับเด็ก ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่ขา ขณะรอรถฉุกเฉินอยู่นั้น ได้สังเกตุเห็นว่าเด็กมีอาการเจ็บปวดมาก ประกอบกับอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลพังงา จึงตัดสินใจขออนุญาตจากคุณแม่เด็ก อุ้มเด็กนำส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลพังงา พบแพทย์และรับการรักษาต่อไป  
 
“ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่มีไหวพริบที่ดีมาก สังเกตเห็นอาการบาดเจ็บของเด็ก และรีบนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ไม่ยึดติดในหน้าที่การอำนวยความสะดวกจราจรของตนเพียงอย่างเดียว โดยหากรอรถพยาบาลฉุกเฉินมารับ เด็กจะต้องทนความเจ็บปวดนานกว่านี้ หรืออาจมีอาการแทรกซ้อนอย่างอื่นก็เป็นได้ นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ดี ซึ่งมีการแชร์และชื่นชมกันอย่างมากโดยสำนักข่าวและโลกโซเชียล” หัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ ศจร.ตร. กล่าว 
 
พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวด้วยว่า การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจร สภ.เมืองพังงานับว่าปฏิบัติหน้าที่อย่างตำรวจมืออาชีพ มีทักษะ ไหวพริบ และคล่องแคล่ว เป็นที่พึ่งของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ตามหลัก 5S คือ SMlLE ยิ้มแย้มเป็นมิตร SMART บุคลิกภาพดี SALUTE สุภาพให้เกียรติ SERVICE MlND มีจิตอาสาบริการ และ STANDARD มีมาตรฐานสากลมาตรฐานสากล ตามแนวทางการสร้าง  “สุภาพบุรุษจราจร” ที่ ศจร.ตร.กำลังขับเคลื่อนสร้างมาตรฐานตำรวจจราจรทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการบริการประชาชน  สร้างความเชื่อถือศรัทธา และสร้างความปลอดภัยให้กับทุกชีวิตบนท้องถนน ทั้งนี้หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ โทร.1197 สายด่วนจราจร กองบังคับการตำรวจจราจร หรือ โทร.191 พร้อมให้ความช่วยเหลือทั่วประเทศ