หนุ่มวิศวกร ตัดสินใจลาออกจากงาน ทิ้งเงินเดือนเป็นแสนกลับบ้านเกิดสานต่องานเกษตรผสมผสานช่วยพ่อแม่อยู่กับครอบครัว


12 ก.ค. 2566, 14:28

หนุ่มวิศวกร ตัดสินใจลาออกจากงาน ทิ้งเงินเดือนเป็นแสนกลับบ้านเกิดสานต่องานเกษตรผสมผสานช่วยพ่อแม่อยู่กับครอบครัว




 

ที่บ้านตะเปียงครอง ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ หมู่บ้านใกล้แนวชายแดนไทย-กัพูชา เมื่อสินค้าเกษตรได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะทุเรียนที่กำลังเป็นที่นิยมและมีความต้องการเป็นจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ  ทำให้เกษตรกรต้องขยายพื้นที่การปลูกมากขึ้น ทำให้คนรุ่นใหม่หลายคนที่จบการศึกษาในระดับสูง ทั้งปริญญาโทและเอก และหลากหลายอาชีพ เช่น วิศวกร สถาปนิก ข้าราชการ เจ้าของโรงงาน ฯลฯ หันมาให้ความสนใจด้านการเกษตรมากยิ่งขึ้น  

หนึ่งในนั้นก็คือ นายภาคภูมิ เอมสมบูรณ์ หรือน้องมิน  วัย 26 ปี บ้านตะเปียงคล็อง ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ หนุ่มวิศวะผู้ที่ตัดสินใจทิ้งเงินเดือนเป็นแสน หันหน้าเข้าสวนผลไม้ ใช้ความรู้ความสามารถและเทคโนโลยีมาต่อยอดช่วยทำสวนผลไม้และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายอยู่กับครอบครัว

นายภาคภูมิ เอมสมบูรณ์ ดีกรีปริญญาตรีวิศวโยธา หลังจากที่จบการศึกษาก็ได้เข้าทำงานในบริษัทชั้นนำระดับประเทศควบคุมดูแลงานด้านการก่อสร้างตามไซร้งานใหญ่ๆอยู่ 2 ปี มีเงินเดือนบวกกับโอทีประมาณเกือบ2แสนบาท ก่อนที่จะทิ้งทุกอย่างแล้วกลับมาทำสวนผลไม้ต่อยอดสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ท่านทำไว้ โดยได้นำความรู้ความสามารถบวกกับเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ 

นายภาคภูมิ  เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า พื้นฐานของครอบครัวได้ทำการเกษตรอยู่แล้ว เช่น ทำนา เลี้ยงปลา ปลูกยางพารา ปลูกเงาะ ปลูกทุเรียน ทำเฟอร์นิเจอร์จากรากไม้ เรียกว่าทำการเกษตรครบวง  ช่วงที่เรียนอยู่ก็เดินทางไปๆมาๆ ว่างๆก็มาช่วยครอบครัวทำการเกษตร  พอเรียนจบวิศวะ ก็ได้มีโอกาสทำงานกับบริษัทชั้นนำระดับประเทศอยู่ 2 ปี ในช่วงที่ทำงานนั้นมีโอกาสได้ออกตระเวนไปตามไซร้งานต่างๆ และทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างมาก แม้จะได้เงินเดือนเยอะแต่ยอมรับว่าไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร  ถามว่าเสียดายเงินเดือนเกือบ 2 แสนบาทไมที่ลาออกจากงานที่ทำมา ก็ยอมรับว่าเสียดายนะ แต่ตนเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายดีกว่า เพราะก่อนที่จะลาออกจากบริษัทก็ได้ปรึกษากับครอบครัวแล้ว ซึ่งทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไร ขอแค่ทำแล้วให้มีความสุขก็พอ 

นายภาคภูมิ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการทำการเกษตรว่า ครอบครัวของตนทำสวนผลไม้อยู่แล้ว ตนได้เข้ามาออกแบบพื้นที่การเพาะปลูกเพิ่มเติมตรงที่เราจะทำการเกษตรก่อน เพื่อที่จะคำนวณค่าใช้จ่ายและความคุ้มค่าในการลงทุนทำเกษตร ซึ่งตนมองว่าถ้าเราออกแบบก่อนที่จะทำการปลูกหากมีปัญหาอะไรก็สามารถแก้ไขได้ทันก่อนที่จะลงทุน เพราะว่าการทำเกษตรถ้าเราผิดพลาดคือเราจะเสียทั้งเงินและโอกาสบวกกับเวลา ซึ่งตรงนี้สามารถแก้ไขได้ โดยเฉพาะกับการปลูกทุเรียน  ฉะนั้นถ้าเรามีสายพันธุ์ทุเรียนที่ดี แต่ราคาสูงหน่อย ยอมลงทุนดีกว่าที่เราไม่รู้ที่มาที่ไปของสายพันธุ์เลย เพราะถ้าเรามีสายพันธุ์ที่ชัดเจน อนาคตเราก็สามารถต่อยอดโดยการขายสายพันธุ์ที่ดีมีคุณภาพได้อีก 

ปัจจุบันนายภาคภูมิ กับครอบครัวได้ทำสวนผลไม้จำนวน 30 ไร่ มีทั้งทุเรียนพันธุ์หมอนทอง พันธุ์ก้านยาว พันธุ์มูซังคิงส์  ซึ่งเป็นทุเรียนของประเทศมาเลเซียหรือที่คนมาเลเซียเรียกว่า ราชาแมวป่า ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก  นอกจากนั้นก็ยังมีสวนเงาะ สวนลำไย ขุดบ่อเลี้ยงปลา และปลูกพื้นกินได้เกือบทุกชนิด อีกทั้งกำลังปลูกมะพร้าวน้ำหอม  ซึ่งตลาดมีความต้องการเป็นจำนวนมาก  ตนอยากจะใช้ความรู้ความสามารถและใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้กับการเกษตรผสมผสาน เพื่อพัฒนาสินค้าเกษตรให้ดี มีคุณภาพ เชื่อว่าอีก5ปี อำเภอบัวเชด  จะมีผลไม้หลากหลายชนิดออกสู่ท้องตลาดและจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมสวน เข้ามาซื้อผลไม้จากชาวสวนโดยตรงเป็นจำนวนมากมาก  ฉะนั้นตนคิดว่าทำอย่างไรจะให้นักท่องเที่ยวประทับใจที่สุดเมื่อเข้ามาที่สวนผลไม้





คำที่เกี่ยวข้อง : #หนุ่มวิศวะ  









©2018 CK News. All rights reserved.