หลังจากที่นักร้องหนุ่มชื่อดัง หนุ่ม กะลา หรือ ณพสิน แสงสุวรรณ ออกมาไลฟ์เปิดใจถึงสถานะความสัมพันธ์กับ จูน เพ็ญชุลี ว่าได้แยกกันอยู่ 2 ปีแล้ว และกำลังจะทำเรื่องหย่าให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ทางคุณจูน ภรรยา ก็ได้ออกมาเปิดใจว่าจะฟ้องมือที่สาม 10 ล้านบาท นอกจากนี้หนุ่ม กะลา ยังลั่น ในรายการโหนกระแสว่าจะยุติความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่เป็นบุคคลที่สาม

เวลา 14.00,น. วันที่ 21 มิถุนายน 2566 ที่ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3(ตึกมาลีนนท์) คุณเพ็ญชุลี หนูแก้ว ภรรยา หนุ่มกะลา เปิดเผยกับสื่อมวลชน หลังมาออกรายการโหนกระแส ว่า หลังจากที่ได้พูดออกไปทั้งหมดวันนี้ ก็รู้สึกสบายใจมาก โล่งใจมาก กับสิ่งที่ตนเองนั้นทนมาเป็นปีๆ มาถึงวันนี้มันจบสักที จะได้ไม่ต้อง กล้ำกลืนฝืนทน เดินหน้าก็ไม่ได้ถอยหลังก็ไม่ได้ พูดกับใครก็ไม่ได้เพราะกลัวลูกได้รับผลกระทบ  จากที่ตอนแรกมีคำพูดถึงเรื่องการหย่ากัน ตอนนั้นก็มีความคิดแบบนั้นจริงๆ ซึ่งแยกกันอยู่มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คุณหนุ่มก็กลับมาหาลูกบ่อย อย่างที่ทุกคนทราบในเรื่องของการหย่าก็ไม่มีอะไรยากแค่ตกลงกันเรื่องทรัพย์สิน การเลี้ยงดูลูก ช่วงนี้ก็ต่างก็ไปเยียวยาจิตใจตัวเอง นึกถึงผลประโยชน์ของลูกเป็นอันดับแรกแค่นี้ก็พอแล้ว

ซึ่งช่วงที่จับได้ตอนแรก ก็ได้มีการขอโทษแต่ตนรู้สึกว่าพฤติกรรม ที่ขอโทษแล้วทำต่อมันก็ดู ไม่มีประโยชน์อะไร ซึ่งตอนนี้ผลของการกระทำของเขา ก็แสดงให้เห็นแล้ว และเขาก็ได้รับผลการกระทำเยอะมากแล้ว การที่เขาขอโทษเราครั้งนี้ก็คิดว่าเขาสำนึก

ส่วนประเด็นว่าคุณหนุ่ม กะลา จะจบความสัมพันธ์กับบุคคลที่3 ก็รู้สึกดี ใครจะอยากให้สามีไปยุ่งกับคนอื่น มันเป็นสิ่งที่เขาควรทำอยู่แล้ว แต่ถามว่าจะใจอ่อนกลับไปไหม ถ้าตอนนี้ก็ไม่ได้อยากกับไป เพราะยังคงต้องทำใจก่อน ถ้าจะมาขอโทษแล้วกลับไปได้เลย จากการกระทำนี้ก็คงไม่ได้ ตอนนี้อยู่ในสถานะพ่อแม่ ช่วยกันเลี้ยงลูกดีกว่า  แต่ก็ไม่รู้อนาคตว่าจะเป็นยังไง  และตอนนี้ก็ยังรักอยู่ เป็นห่วงมากๆ เพราะจากที่เขาโดนก็รู้ว่าหนักพอสมควร และตัวเขาเองเป็นคนที่จิตใจอ่อนไหวง่าย ตนรู้ว่าเขาโดนโจมตีมาเยอะมากแล้ว ก็จะสังเกตุเห็นว่าเวลาเขาตอบอะไร ก็จะไม่ค่อยรู้เรื่อง ตนมั่นใจว่าตนรู้จักเค้าดีที่สุด

อยากให้สังคมให้อภัยเขา เพราะครั้งนี้เป็นบทเรียน ที่ยิ่งใหญ่ ทั้งกระแสโดนโจมตีและอะไรหลายๆอย่าง ตนไม่ได้อยากเห็นใครพังทลายและยิ่งเขาเป็นคนในครอบครัว ก็ไม่ได้อยากให้เขาล้ม แต่ก็อยู่ที่ตัวเขาด้วยว่า เขาจะแก้ไขให้ดีขึ้นได้หรือไม่ ก็เลยอยากให้สังคมให้อภัยเขาเพราะว่ามันมีผลกระทบมาถึงลูกด้วยตรงนี้มันก็เลี่ยงไม่ได้

สำหรับเรื่องเงินตนเป็นคนดูแลทั้งหมด สามีอยากได้อะไรก็แค่มาบอก ถ้าอันไหน สมเหตุสมผลตนก็โอเคแต่ถ้าอันไหนที่ดูแล้วไม่สมเหตุสมผล ตนก็ไม่ได้ให้ ส่วนการที่เขามีบุคคลที่3มาเติมเต็มตรงนี้หรือไม่ อันนี้ไม่ทราบ แต่ถ้ามีคนมาเปย์แล้วถึงขั้นต้องไปรักเขาเลยคงไม่ใช่

ส่วนเรื่องครอบครัวฝั่งสามีตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่ได้คุยกัน ตลอดระยะเวลา 30 ปีก็มีดีบ้างร้ายบ้างเป็นเรื่องปกติ

จากนี้ไปก็ยืนยันว่าจะฟ้องผู้หญิงคนดังกล่าวเหมือนเดิม ซึ่งตนฟ้องตามสมควร 10 ล้านบาท
ซึ่งผู้หญิงคนดังกล่าวเคยอยากให้ตนติดต่อไปแต่ตนก็ไม่ได้ติดต่อไป เพราะไม่เห็นประโยชน์ในการติดต่อไปนะวันนั้น แต่ตอนนี้ตนจะให้ทางทนายติดต่อไปถ้าอยากคุยกันก็เดี๋ยวไปเจอกันที่ศาล คุยกันด้วยพยานหลักฐาน

ด้านนายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ทนายประจำตัว เปิดเผยว่า เนื่องจากว่าพยานหลักฐานค่อนข้างต่อเนื่อง และเป็นการกระทำหลายปีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งล่าสุดก็ยังไม่นาน ยังไม่ถึงปีคดีความก็ยังไม่ขาด ส่วนตัวเลขในการฟ้อง 10 ล้านบาท ก็เป็นตัวเลขที่เหมาะสมไม่ได้ต่ำเกินไป หรือว่าแพงเกินไป เพื่อเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องรอดูศาลพิจารณาอีกครั้ง โดยตอนนี้ก็มั่นใจว่าจะสามารถฟ้องได้ ด้วยหลักฐานที่มีทั้งรูปและคลิป

“ สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณทุกกำลังใจ ที่ส่งเข้ามาเยอะมาก คือตั้งแต่แรกเรารู้สึกว่าไม่ว่าเราจะไปไหนมาไหน เราไม่ใช่คนผิดเราก็จะไม่อาย ต่อให้เรื่องนี้มันจะแดงเมื่อไหร่ เราก็ไม่ใช่คนที่ต้องอาย พอมาวันนี้เรื่องเกิดขึ้นแล้ว ทุกคนเห็นใจก็ยิ่งทำให้เรามีกำลังใจและเราต้องไหว และวันนี้เราได้ทำในสิ่งที่ควรทำ”ภรรยาหนุ่มกะลา กล่าว