เมื่อวานนี้( 18 มิ.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกระแสดัง “เค ร้อยล้าน” ที่ได้มาร่วมงานจัดอบรม “พัฒนาคุณลักษณะของผู้เรียน กิจกรรมค่าย พุทธบุตร” ประจำปี 2566 โดยมีพระมาร่วมเป็นวิทยากร ทั้งหมด จำนวน 6 รูป ซึ่งหนึ่งในนั้น เป็นพระเค ร้อยล้าน ร่วมอยู่ด้วย ทำให้ชาวเน็ตต่างวิจารณ์โรงเรียนสนั่นโซเซียล
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบ ผู้อำนวยการโรงเรียน จอมพระประชาสรรค์ ท่านอธิบาย ต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นทางโรงเรียนได้ตั้งโต๊ะแถลง ต่อ รอง(สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 33 สุรินทร์ ) สพม. เขต 33สุรินทร์ ประธานและคณะกรรมการสถานศึกษา รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้สื่อข่าวได้ให้ทาง พระทางพระมหาประทีป (หัวหน้าวิทยากร)ชี้แจ้งอีกด้วย
สัมภาษณ์ นายแชม มุ่งดี (ผู้อำนวยการโรงเรียน จอมพระประชาสรรค์) เล่าว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ทางโรงเรียนได้บรรจุในแผนประจำปี มีการประชุมและมีการวางแผนตามขั้นตอนและมีการอนุมัติโครงการตามระบบ และก็ดำเนินการตามแผนส่วนเรื่องการติดต่อวิทยากรนั้นเราได้ติดต่อทางพระอาจารย์ที่เป็นหัวหน้าคณะ พระมหาปทีป หัวหน้าพระวิทยากร ส่วนทางพระเคที่มาร่วมด้วยทางโรงเรียนไม่เคยรู้จัก มีพระมาร่วมทั่งหมด 6 รูป ที่จริงแล้วเชิญเพียง 5 รูป ที่ทำหนังสือไปแต่มีพระเคเพิ่มมาอีก 1 รูป รวมเป็น 6 รูป ทำให้เกิดปัญหาโซเชี่ยลขึ้นมา รวมถึงตนพระ ผู้ปกครอง ต่างรู้สึกไม่สบายใจในเรื่องเหล่านี้ที่เกิดขึ้น และทางโรงเรียนไม่รู้จักพระเคมาก่อน พึ่งทราบข่าวหลังจากที่มีการนำเรื่องราวไปโพสต์ในเรื่องโซเชี่ยล ทางโรงเรียนจึงได้สอบถามความเป็นมา และวางแผนไว้ว่าจะต้องตอบโจทย์กับสังคม “และพระเคไม่ได้เป็นวิทยากรอย่างที่เป็นข่าวในโลกโซเชี่ยล เพียงมาช่วยกำกับดูแลความเรียบร้อยเท่านั่น” ในช่วงที่มีการจัดอบรมเด็กนักเรียนได้มีการพูดคุยเสียงดังทางพระเคเห็นจึงอยากให้มีระเบียบวินัย และพระเคมักจะใช้คำพูดอยู่ตลอดว่าเงียบ และตามที่เป็นข่าวในกระแสโซเชียลว่าทางโรงเรียนได้เชิญพระเคมาเป็นวิทยากรไม่ใช่ความจริง ส่วนคนที่พาพระเคมาคือพระเพื่อนที่มาเป็นวิทยากร พระที่อยู่ในวัดบูรพารามด้วยกัน ซึ่งทางโรงเรียนไม่รู้เรื่องและไม่ทราบมาก่อนว่าพระเคจะมา มารู้ที่หลังตอนที่เป็นกระแสในโซเชียลว่าพระเคคือใคร อย่างไรก็ตามทางผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวได้แถลงการณ์กับสื่อถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่งหมด
ต่อมา ทางพระมหาประทีป หัวหน้าพระวิทยากร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่าน VDO Call ว่า “พระเคไม่ได้เป็น 1 ใน 5 ของพระวิทยากร พระวิทยากรที่มา มากันหลายวัด อาตมาอยู่วัดแถวจอมพระ พระอีกชุดหนึ่งอยู่ในเมือง ได้ไปเจอกันที่โรงเรียนในการอบรม ส่วนพระเคพักอยู่กับพระครูอีกรูปหนึ่งที่วัดอยู่ในเมือง พระรูปนี้ได้พาพระเคไปอบรมด้วย ในการไปอบรมพระเคได้อธิบาย บรรยายในวันที่ 2 วันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ในจำนวนวิทยากร 5 รูป พระเคไม่ได้เป็นพระวิทยากร มีพระที่อยู่ด้วยกันพาไปเป็นวิทยากรด้วย ก็เลยได้ไปอบรมด้วย โดยส่วนตัวพระอาจารย์ไม่รู้จักกับพระเค ไม่รู้จักว่าเป็นใคร พระอาจารย์พึ่งมารู้ตอนที่เป็นเรื่อง ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักเค ร้อยล้านมาก่อน ไม่ได้ติดตามข่าวในโซเชียล พระอาจารย์ทำงาน ทำหน้าที่เป็นเจ้าคณะอำเภอ และเป็นเลขาจังหวัด พอดีมีคุณครูประสงค์ที่จะนิมนต์ไปบรรยาย ก็คิดว่าไปบรรยายธรรม แต่ไปก็เป็นค่ายพุทธบุตร ความเข้าใจคือไปบรรยายธรรมะให้นักเรียนฟัง พระที่ท่านอยู่ในทีมวิทยากรที่เคยทำงานด้วยกันพระครูท่านนี้ไปนิมนต์ เชื้อเชิญพระเคไปด้วย ซึ่งอยู่ด้วยกัน พระอาจารย์ไม่รู้ประวัติส่วนตัวเขา ไม่รู้ว่าเขามีประวัติการเมืองมาก่อน ไปเจอกันก็ไปเจอกันที่โรงเรียนแล้ว พระครูที่เป็นคนพาไปท่านก็เห็นว่าว่างก็เลยพามาด้วย ได้มาฝึกบรรยาย พอรู้ประวัติก็ไม่ได้ไปสืบค้นอะไร พระเคพูดอาจจะใช้คำตะคอกแรง ๆ เพราะว่านักเรียนเสียงดัง บอกให้เงียบ พอเห็นก็ไม่คิดว่าเขาจะมีคดีอะไร ตอนนี้พอจะทราบแล้วว่าจะฟ้อง เป็นเรื่องธรรมดาตามกระบวนการที่โรงเรียนเกิดเรื่อง ในฐานะที่พระอาจารย์เป็นหัวหน้าวิทยากรไม่ทราบมาก่อนแต่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน ก็เลยขอชี้แจงกับทางโรงเรียนไปว่า พระรูปนี้มาเป็นวิทยากรได้อย่างไร ก็ส่งเรื่องชี้แจงกับผอ.โรงเรียนไป ส่วนเรื่องที่เขาไปบันทึกประจำวันก็เป็นเรื่องของเขา ดูแล้วไม่น่าจะเป็นประเด็นอะไรเพราะว่าที่ชี้แจงไปเป็นไปตามข้อเท็จจริง”
“เพิ่มเติมประเด็นเมื่อสักครู่ที่ท่านไปโพสต์ว่าเป็นคำมอบหมาย คำสั่งของหลวงพ่อเยื้อนเจ้าคณะจังหวัดให้ไปบรรยาย ไปเป็นวิทยากรที่โรงเรียน อันนั้นไม่เป็นความจริง ก็คือท่านไปโพสต์ข้อความเอง ว่าได้รับมอบหมายจากหลวงพ่อเยื้อน เจ้าคณะจังหวัด ที่จริงท่านโพสต์ข้อความของท่านเอง ไม่ได้มีคำมอบหมายอะไร เพราะว่าการอบรมที่โรงเรียนจะเป็นการอบรมนอกสถานที่ คุณครูก็จะนิมนต์พระอาจารย์ไป ฉะนั้นการที่ไปไม่ได้เป็นคำสั่งว่าให้ไป จริงๆ พระเคบวชตั้งแต่เมษายนแล้ว บวชภาคฤดูร้อนยังไม่สึก หลังจากสิ้นสุดโครงการช่วงเมษาพระเคได้มาพักที่วัดบูรพาราม ตอนอยู่ในโครงการเขาไปที่วัดเขาศาลา อยู่คนละที่”
สัมภาษณ์ นางยุพิน บรรเทพ (ครูผู้รับผิดชอบโครงการ) เล่าว่า วันนั้น ได้นิมนต์พระมาจากวัดบูรพาราม เพื่อมาเป็นวิทยากร โดยมรพระเคอยู่ในนั้นด้วย หลังจากที่อบรมเด็กนักเรียนเสร็จ ช่วงเย็นกลุ่มเด็กนักเรียน ได้มีการ เสิดในอินเตอร์เน็ต จนรู้ว่าพระเคคือใคร จนกระทั้งมีการนำไปโพสต์ในโลกออนไลน์ จนเกิดกระแสวิพากวิจารณ์ และตอนที่พระเคอยูในหอประชุม ชอบพูดประโยคหนึ่งและพูดยาวที่สุด “อาตตามา เคยเป็นคนไม่ดีมาก่อน อาตตามาอยากให้ทุกคน รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” เด็กนักเรียนสงสัยคำนี้เลยเสิดหาข้อมูล ในเน็ตจนรู้ว่าเขาเป็นคนไม่ธรรมดา และชอบพูดเสียงดังบอกให้เงียบ ซึ่งตนดูแล้วไม่ถูกตามหลัก ตนจึงไปบอกท่านว่า “ท่านคะ ช่วยเปลี่ยนคำพูดจากเงียบได้ไหม” แล้วท่านก็พูดมาว่ารักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี และใช้เลเซอร์ส่องเด็กเพื่อบอกให้จัดแถว
©2018 CK News. All rights reserved.